ปัญหาแท้จริงของ Evergreening Patent

Evergreening-patent-1

 

 

ยีนที่สกัดจากดีเอ็นเอของมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่อาจจดสิทธิบัตรได้ เพราะเป็นผลผลิตของธรรมชาติ

ศาลสูงสหรัฐ
13 มิถุนายน 2556

 

ยาโมเลกุลเดิมที่มีรูปแบบยาใหม่ ไม่อาจจดสิทธิบัตรได้ เพราะให้ผลการรักษาไม่ต่างจากเดิม และสิทธิบัตรมีไว้ให้แก่สิ่งประดิษฐ์ที่มีความใหม่และนวัตกรรมที่สูงขึ้นเท่านั้น

ศาลสูงสุดอินเดีย
1 เมษายน 2556

 

วิธีการบำบัดรักษาไวรัสตับอักเสบซีในผู้ป่วยที่การบำบัดรักษาล้มเหลว ไม่อาจจดสิทธิบัตรได้ เพราะเป็นการขอถือสิทธิ์ในวิธีการบำบัด หรือรักษาโรคมนุษย์หรือสัตว์

คณะกรรมการสิทธิบัตรไทย ที่ 1/2553
29 มกราคม 2553

 

 

กรณีตัวอย่างเหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับยาหรือสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เข้าข่ายจะได้รับการจดสิทธิบัตร และปัญหารูปแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะใน ยุโรป สหรัฐ ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย อินเดีย หรือแอฟริกาใต้

จาก 3 กรณีนี้จะเห็นว่า ระบบทรัพย์สินทางปัญญาของโลกกำลังเผชิญปัญหาการขอรับสิทธิบัตรที่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเพียงเล็กน้อยจากบริษัทเจ้าของสิทธิ์เดิม เพื่อที่จะผูกขาดด้านเทคโนโลยีและผลประกอบการต่อไปเรื่อยๆ

การจด ‘สิทธิบัตรที่ไม่มีวันสิ้นสุด’ (Evergreening Patent) กลายเป็นประเด็นร้อนในหลายประเทศ แม้แต่ศาลสูงสหรัฐก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการให้สิทธิบัตรที่ไม่มีวันสิ้นสุด ที่อาจจะขัดขวางทั้งการแข่งขันของตลาดและการสร้างสรรค์นวัตกรรม

ต้องยอมรับว่าระบบสิทธิบัตรมีประโยชน์ในแง่การสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม แต่ด้วยอำนาจผูกขาดซึ่งมีกำหนดระยะเวลาถึง 20 ปี ทำให้สิ่งประดิษฐ์ที่สมควรได้รับสิทธิบัตรต้องมีความใหม่ มีการประดิษฐ์ที่สูงขึ้นและสามารถประยุกต์ใช้ในระดับอุตสาหกรรมได้

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ กรณียาชื่อสามัญ ระบบสิทธิบัตรก่อให้เกิดการผูกขาดในการวิจัยและการจำหน่าย ทำให้ผู้ผลิตยาชื่อสามัญไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้ บริษัทยาต้นแบบหรือเจ้าของสิทธิบัตรจึงมีอำนาจในการกำหนดราคายาแต่เพียงผู้เดียว

การอนุมัติสิทธิบัตรให้การปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเพียงเล็กน้อย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยาจำเป็นในงานสาธารณสุข สิทธิบัตรเภสัชภัณฑ์และกรรมวิธีอาจถูกนำมาใช้เพื่อขัดขวางไม่ให้ยาชื่อสามัญเข้ามาแข่งขันในตลาด ทั้งที่การแข่งขันจะทำให้ยามีราคาถูกลงและช่วยขยายโอกาสเข้าถึงยาของผู้บริโภค

ในออสเตรเลีย งานวิจัยฐานข้อมูลสิทธิบัตรออสเตรเลียพบว่า ยารักษาโรคอันดับต้นๆ มีสิทธิบัตรแบบ evergreening จำนวนมาก ทำให้ยาเหล่านั้นมีสิทธิบัตรต่อเนื่องสูงสุดที่ 50 ปี จากอายุสิทธิบัตร 20 ปี ตามกฎหมายออสเตรเลียและตามความตกลงทริปส์ในองค์การการค้าโลก

สำหรับประเทศไทย การตรวจคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ด้านเภสัชภัณฑ์ช่วง ปี 2543-2553 จำนวน 2,188 คำขอ คิดเป็นร้อยละ 20 ของคำขอรับสิทธิบัตรในสาขานี้ พบว่าร้อยละ 84 มีสิทธิหลักเป็น evergreening

การพัฒนาระบบตรวจสอบการให้สิทธิบัตรเพื่อคัดกรองเภสัชภัณฑ์ที่ไม่มีความใหม่ ไม่มีขั้นตอนการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น ไม่ให้ได้รับสิทธิบัตร จะช่วยให้ยาสามัญเข้ามาแข่งขันในตลาด ทำให้ยาจำเป็นมีราคาถูกลง ประชาชนเข้าถึงยาได้มากขึ้น และเป็นการเสริมสร้างงานวิจัยและนักวิจัยไทยให้มีความเข้มแข็งในระยะยาว


 

ที่มา: infojustice.org

สนับสนุนโดย

Author

อภิรดา มีเดช
อดีตภูมิสถาปนิกที่สนิทสนมกับตัวหนังสือมากกว่าต้นไม้ สารพัดขนแมวที่ติดอยู่บนเสื้อสีดำเป็นเครื่องหมายแสดงความจิตใจดี เป็นเครื่องประดับแสดงความเป็นทาสแมว สนใจด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา ประวัติศาสตร์ การเมือง รวมถึงการวิพากษ์สังคมและบุคคลอย่างตรงไปตรงมา
(กองบรรณาธิการ WAY ถึงปี 2559)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า