สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีแผ่ขยายความตึงเครียดไปทั่วโลก อาจกล่าวได้ว่าสหรัฐในตอนนี้อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากกว่าทุกครั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเร่งเจรจากับผู้นำหลายๆ ประเทศ เนื่องจากไม่รู้ว่าเกาหลีเหนือนั้นจะทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์ลูกที่หกเมื่อไร
ล่าสุดเมื่อ 25 เมษายน ดาวเทียมของสหรัฐสามารถจับภาพพื้นที่ต้องสงสัยว่าอาจใช้ในการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ได้ ทำให้นักวิเคราะห์จากกลุ่มเฝ้าสังเกตการณ์เกาหลีเหนือ 38 North ของสหรัฐเชื่อว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดลองยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ลูกที่หกเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
“ถ้าจะบอกว่า การทดลองยิงขีปนาวุธลูกใหม่ถูกยกเลิกไปแล้ว คงไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ตอนนี้เกาหลีเหนืออยู่ในโหมดแสตนด์บาย และพร้อมที่จะลงมือทดสอบทุกเมื่อ” นักวิจัยจากกลุ่มสังเกตการณ์จากสถาบันเกาหลีและสหรัฐ มหาวิทยาลัยจอห์นฮอพกินส์ (John Hopkins University’s US-Korea Institute) กล่าว
จันทร์ที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือออกมาพูดถึงการทดลองยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์อย่างสั้นๆ กระชับและได้ใจความว่า “เราพร้อมยิงทุกเมื่อ ทุกที่ แล้วแต่ว่าท่านผู้นำจะสั่งตอนไหน”
ตลอด 10 ปี เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ไปแล้วห้าครั้ง เชื่อกันว่า มีเป้าหมายสูงสุดคือพัฒนาให้ขีปนาวุธนิวเคลียร์สามารถยิงไปถึงกลางประเทศสหรัฐอเมริกา
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ขีดศักยภาพอาวุธทางการทหารของเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่สหรัฐไม่ควรประมาท โดยก่อนหน้าวันจัดพาเหรดแสดงแสนยานุภาพเมื่อวันที่ 15 เมษายน เกาหลีเหลือก็เพิ่งทดสอบยิงขีปนาวุธหนึ่งลูก เพื่อแสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ของยุทโธปกรณ์ของพวกเขา
และต่อไปนี้ WAY ขอชวนดูของเล่นใหม่ที่ท่านผู้นำ คิม จอง อึน เพิ่งจัดแสดงให้ชาวโลกได้เชยชมเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ของเล่นใหม่ของกองทัพเกาหลีเหนือ
ในขบวนพาเหรดใหญ่ของเกาหลีเหนือเมื่อ 15 เมษายนที่ผ่านมา เหมือนกับทุกๆ ปีที่เกาหลีเหนือจะนำอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ รวมถึงพลกำลังมหาศาล มาเป็นส่วนหนึ่งของขบวน เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการรบของประเทศ สำนักข่าว Reuters ได้เก็บข้อมูลอาวุธต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งเป็นพาเหรดแรกของ คิม จอง อึน และปีล่าสุด นอกจากอาวุธทั่วไป เกาหลีเหนือได้นำขีปนาวุธใหม่หลายชนิดมาจัดแสดงในขบวน
ขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missile: ICBM)
เกาหลีเหนือโชว์ให้เห็นว่า พวกเขามี ICBM ชนิดใหม่อย่างน้อยๆ สองแบบ คือ KN-08 และ KN-14 อยู่บนฐานยิงที่ติดไว้กับรถบรรทุกหุ้มเกราะขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ KN-14 ที่ต้องขนย้ายด้วยรถ 16 ล้อ และมีระยะการยิงเกิน 10,000 กิโลเมตร ทำให้สามารถโจมตีถึงสหรัฐได้
ขีปนาวุธ Musudan (BM-25)
BM-25 หรือ Hwasong-10 คือขีปนาวุธพิสัยกลางภาคพื้นดิน มีต้นแบบจากขีปนาวุธนำวิถี Scud-C ของรัสเซีย ติดตั้งกับฐานยิงบนรถบรรทุกหุ้มเกราะ 12 ล้อ คล้ายกับ MAZ-547A ของรัสเซีย มีระยะการยิงไกลประมาณ 4,000 กิโลเมตร ติดตั้งหัวรบขนาด 1,200 กิโลกรัม สามารถบรรจุฮีเลียมได้ 800 กิโลกรัม รวมถึง อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ และอาวุธนิวเคลียร์
ขีปนาวุธ Pukkuksong-1 (KN-11)
ขีปนาวุธยิงใต้น้ำ (Submarine-Launched Ballistic Missiles: SLBM) เป็นอีกหนึ่งอาวุธทำลายล้างหน้าใหม่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก ขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำนี้ผ่านการทดสอบเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เชื้อเพลิงแข็งทำให้มีรัศมีการยิง 900 กิโลเมตร และขีปนาวุธที่สามารถยิงจากใต้น้ำสู่อากาศนี้จะทำให้เกาหลีเหนือพ้นจากการตรวจจับของระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ของเกาหลีใต้
ขีปนาวุธ Pukkuksong-2 (KN-15)
ขีปนาวุธจากฐานยิงภาคพื้นดิน ที่ต่างจาก Pukkuksong-1 ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในขบวนนี้ Pukkuksong-2 ผ่านการยิงทดสอบแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยติดตั้งอยู่บนฐานยิงบนรถถัง สามารถเคลื่อนที่ไปได้ทุกพื้นที่ เชื่อกันว่า รัศมีการยิงจะอยู่ที่ประมาณ 1,200-3,000 กิโลเมตร
ขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำ
ติดตั้งอยู่ในท่อเก็บจรวดสี่ลูก ยิงจากแท่นยิงยกมุมตั้งเคลื่อนย้ายได้ (Transporter Erector Launcher: TEL) บนรถรองปืน มีลักษณะคล้ายกับขีปนาวุธรัสเซีย S-300V, 9A83 และ SA-12A Gladiator เชื่อกันว่าสามารถป้องกันการรุกรานของกองทัพเรือข้าศึกได้ในรัศมีมากกว่า 100 กิโลเมตร
ขีปนาวุธ KN-06
KN-06 หรือ Pongae-5 SAM คือขีปนาวุธยิงจากพื้นดินสู่อากาศ มีลักษณะและรูปแบบคล้ายกับขีปนาวุธป้องกันอากาศยานและการโจมตีทางอากาศ S-300 ของรัสเซีย ติดตั้งอยู่ในท่อเก็บจรวดสี่ลูก สามารถยิงจาก TEL บนรถรองปืนในแนวตั้งสู่เป้าหมายทางอากาศได้ทันที ในระยะประมาณ 150 กิโลเมตร
ขีปนาวุธ S-200
S-200 หรือ SA-5 Gammon คือขีปนาวุธพิสัยกลางและไกล ยิงจากพื้นดินสู่อากาศ ออกแบบโดย Company Almaz ของรัสเซีย S-200 บรรทุกและขนย้ายบนรถขับเคลื่อนแปดล้อ เพื่อนำไปยังฐานยิง เชื่อว่ามีระยะการยิงไกล 300 กิโลเมตร และความสูง 40 กิโลเมตร
อ้างอิงข้อมูลจาก: armyrecognition.com
reuters.com
aljazeera.com
Author
