คนรัก(ที่)สงขลา

IMG_5199

เรื่องและภาพ : หนุ่ม หนังสือเดินทาง

สงขลาของผมเต็มไปด้วยความหลัง กลับไปทีไรมันเลยเหมือนหลุดเข้าไปในกล่องความจำ

สงขลาไปได้หลายวิธี เท่าที่จำได้ช่วงแรกๆ ผมมักกลับไปด้วยรถทัวร์ สำหรับคนขายาวแล้ว การนั่งรถทัวร์หาได้สบายไม่ การต้องร่วมกินอาหารที่บริษัทรถเตรียมไว้เป็นโต๊ะๆ กับผู้โดยสารท่านอื่นก็หาใช่เรื่องสนุก ทั้งนี้เพราะเมื่อแปลกหน้าต่อกัน ทุกอย่างก็ดูเกร็งไปหมด จะตักปลาชิ้นใหญ่ก็น่าเกลียด จะเติมข้าวก็ดูกินจุเกิน หากไม่อยากอึดอัดก็ต้องแสร้งอิ่มแล้วลุกไปห้องน้ำ ซึ่งเท่าที่สังเกต นั่นทำให้แต่ละโต๊ะเหลืออาหารอยู่ไม่น้อย และก็เห็นจะมีแต่ดินเนอร์รถทัวร์เท่านั้นที่สร้างบรรยากาศเช่นนี้ได้ นี่ยังไม่นับว่าตอนที่ยังใหม่ต่อเมือง(หลวง) ผมยังเคยหลงอยู่แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตั้งหลายหนก่อนจะหาทางไปขนส่งสายใต้ถูก การเดินทางวิธีนี้จึงไม่ได้รื่นรมย์นัก แต่ที่ต้องใช้ ก็เป็นเพราะเมื่อถึงสงขลาแล้วรถผ่านหน้าบ้านพอดี

ต่อมาผมชอบนั่งรถไฟไปลงสถานีหาดใหญ่ หาดใหญ่เป็นชุมทางใหญ่ และไม่ว่าเรากำลังจากมาหรือกำลังกลับไป ตลอดจนไม่ว่าใครมาส่งเราหรือเราไปส่งใครการเดินทางโดยรถไฟมักมีเรื่องให้พูดถึง

ครั้งหนึ่งช่วงเทศกาล ผมเคยต้องยืนจากกรุงเทพฯจนถึงหาดใหญ่ อีกครั้งไก่ชนที่บางคนอุ้มมาด้วยก็ขันเสียงใสเอาตอนตี 5 พอดี และอีกปีอาจเพราะเห็นผมนิ่งมาตลอด ก่อนถึงปลายทางป้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามเคยซื้อไก่ย่างแล้วยื่นให้ผมพร้อมพูดแบบนักเลงๆ ว่า “เอาไป กูไม่เห็นมึงกินอะไรเลย”

แต่ทุกวันนี้หลายครั้งผมบินเอา

ในวันฟ้าโปร่ง การโดยสารเครื่องบินทำให้เห็นสงขลาในมุมสูง พอเลยหัวไทรเข้าเขตอำเภอระโนด ผมชอบมองผืนนากุ้งที่อยู่ติดๆ กันราวแผ่นโมเสค จากนั้นก็ชอบมองทะเลสาบ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีเวิ้งตะกอนเตือนให้รู้ว่ามันกำลังตื้นเขิน

IMG_5227

ใกล้เข้าไปอีกหน่อย ผมชอบมองแนวเขาแดงที่มีป้อมเมืองเก่าอยู่ข้างบน เห็นแล้วก็นึกถึงครูสังคมบางคน ที่ครั้งหนึ่งเขาพาผมและเพื่อนร่วมชั้นปีนป่ายไปบนนั้นพร้อมโจทย์ที่ว่า เราต้องเก็บใบไม้หลากชนิดและระบุให้ได้ว่ามันคือใบอะไร ต่อมาผมชอบมองสะพานติณสูลานนท์ เห็นแล้วก็นึกถึงครูพละอีกคนที่เคยทดสอบพวกเราด้วยการให้วิ่งระยะไกลข้ามสะพานและข้ามเกาะยอ ซึ่งทุกคนก็ทำได้ดี แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีการสอบแบบนี้อีก

ครั้นเครื่องบินลดระดับจนเห็นแนวของหาดสมิหลา เห็นตัวเมืองสงขลา รวมทั้งเห็นโรงเรียนที่เคยเรียน ปรากฏว่าผมนึกถึงเธอคนหนึ่งขึ้นมา ยิ่งไปถึงแล้วได้ไปเดินอยู่ในเมืองสงขลาก็อดนึกถึงเธอไม่ได้ ผมนึกถึงเธอคนนั้นทั้งที่เมื่อกลับไปสงขลาครั้งหลังๆ ผมไปกับใครอีกคน

สมัยมัธยมปลายนั้นผมมีใครคนหนึ่ง

และจะเรียกมันว่าอะไรก็ตาม แต่เธอคนนั้นทำให้วันเวลาที่สงขลาของผมเป็นอย่างนี้ เราเจอกันตอน ม.4 เมื่อต่างก็ย้ายมาที่โรงเรียนหนึ่ง แล้วได้เรียนห้องเดียวกัน

โรงเรียนใหม่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ หลังโรงเรียนเป็นเขาลูกหนึ่ง ซึ่งบนนั้นมีฝูงลิง มีวัด มีจุดที่สามารถมองเห็นทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลสาบ ส่วนหน้าโรงเรียนมีสนามกอล์ฟคั่นอยู่ จากนั้นก็เป็นทะเล ขณะที่หากเลี้ยวไปขวาจะพบสนามกีฬาประจำจังหวัด และหากย้อนไปซ้ายจะพบหาดสมิหลาที่มีชายหาดยาวไปถึงแหลมสนอ่อนและท่าแพข้ามฟากที่หัวเขาแดง การได้เรียนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ถือเป็นเรื่องโชคดีมาก ซึ่งผมนั้นโชคดีเข้าไปอีก เมื่อมีเธอ

เช่นเดียวกับสะพาน สนามกีฬาประจำจังหวัดมีชื่อว่าสนามกีฬาติณสูลานนท์ และผมกับเธอ (อันที่จริงรวมถึงเพื่อนอีกหลายคน) มีประสบการณ์ร่วมกันที่สนามแห่งนี้ไม่น้อย

IMG_5224

ครั้งหนึ่งจำได้ เมื่อโรงเรียนใช้สถานที่แห่งนี้จัดแข่งกีฬา หนุ่มจากห้องอื่นคนหนึ่งซึ่งวันนั้นเป็นลีดเดอร์นำเชียร์ได้ขอให้คนทั้งแสตนด์เงียบลง จากนั้นเขาก็ถือดอกกุหลาบแล้วเดินอย่างหล่อแหวกผู้คนขึ้นไปมอบให้กับเธอคนที่ผมพูดถึง

แต่ทั้งที่ประกาศเสียขนาดนั้น ปรากฏว่าไม่สำเร็จ ในเวลาต่อมาเธอกลับมอบไมตรีให้เพื่อนร่วมห้องอย่างผม ซึ่งวันนั้นไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทำคะแนนวิชาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสได้ดีเป็นพิเศษ นั่นบอกให้รู้ว่า เธอรู้ว่าอะไรควรไม่ควร

ประเด็นคือ เมื่อมีไมตรีให้กัน ก็ย่อมอยากอยู่ใกล้กันให้มากๆ นอกจากกลับบ้านพร้อมกัน จ่ายค่ารถตุ๊กตุ๊ก 3 บาทให้กันคนละวัน ซึ่งบางวันเธอก็แกล้งนั่งรถเลยบ้านเพื่อจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานขึ้น รวมทั้งกางร่มให้กันบ้างในวันฝนตก

คราวหนึ่งเมื่อสนามติณสูลานน์ถูกใช้เป็นที่แข่งฟุตบอลยามาฮ่าคัพโซนภาคใต้ เลิกเรียนแล้วเรามักไปนั่งดูฟุตบอลด้วยกัน ปีไหนไม่มีฟุตบอล บางวันกลับถึงบ้านเรายังเปลี่ยนชุดแล้วกลับมาที่สนามอีก วิ่งสักรอบ ตีแบดมินตันสักยก จากนั้นก็แวะกินน้ำส้มหน้าสนามคนละขวด

ปีสุดท้ายก่อนเรียนจบ เมื่อผมบ้าเตะฟุตบอล ทุกเช้าวันเสาร์เธอมักมานั่งเฝ้าผมอยู่ริมสนาม ที่ริมสนามด้านหนึ่งเธอมักรออยู่ตรงนั้น ต่อมาเมื่อห้วงเวลานี้เป็นอดีต ผมเพิ่งรู้ว่าการที่เธอมารอนั้นโดดเด่นน่าดูเมื่อครั้งหนึ่งครูสอนว่ายน้ำในเมืองหลวงคนหนึ่งซึ่งเข้าใจว่าเคยสอนอยู่ที่สนามติณสูลานนท์ ทักผมว่าเป็นคนสงขลาใช่ไหม และผมใช่ไหมที่เมื่อก่อนเตะบอลแล้วมีสาวไปเฝ้าเป็นประจำ

ชายหาดสมิหลาก็ด้วย

IMG_5240

เด็กจังหวัดอื่นอาจจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมหรือร้านอาหาร แต่เด็กสงขลาไม่ว่าเด็กวิทยาลัยครูหรือเด็กราชมงคลต่างเป็นเหมือนกัน คือ ชอบจัดงานเลี้ยงที่ชายหาดตอนกลางคืน เด็ก ม.ปลายสายสามัญก็ใช่ย่อย ห้องเรียนของผมนั้นเพื่อนสอบเทียบได้ก็เลี้ยง ปิดเทอมก็เลี้ยง เปิดเทอมก็เลี้ยง แข่งฟุตบอลประจำปีชนะก็เลี้ยง แพ้ยิ่งต้องเลี้ยงเข้าไปใหญ่ งานเลี้ยงก็ไม่ได้มีอะไรมาก ลงขันกันคนละ 20-30 บาท พลบค่ำก็ใช้บ้านเพื่อนบางคนที่อยู่ใกล้เป็นฐาน ซื้อลูกชิ้นน้ำอัดลมไปกองๆ ไว้ที่นั่นจากนั้นก็ขนไปชายหาดตรงบริเวณรูปปั้นนางเงือก เวลาที่เหลือก็นั่งเล่น หยอกล้อกัน มีบ้างเหมือนกันที่บางคนใช้โอกาสนี้สวมรองเท้า Scholl คู่ใหม่มาอวด ส่วนผมกับเธอนั้นแค่ได้นั่งอยู่ใกล้กันก็เหมือนจะพอ

สรุปแล้วสงขลานั้นไม่ว่าแตะลงตรงไหนผมก็มีความหลัง โรงหนังเฉลิมทองผมก็เคยไปดูกับเธออยู่บ้าง สถานที่ราชการบางแห่งก็เคยเป็นที่อ่านหนังสือของเราในวันเสาร์ รถตู้ของบริษัทโพธิ์ทองก็ถูกเราใช้บริการบ่อยเมื่อต้องไปหาดใหญ่ แม้แต่สถานีรถไฟหาดใหญ่ผมก็เคยไปส่งเธอเมื่อต้องมากวดวิชาที่มหานคร

แต่อย่างที่กล่าว นี่เป็นเรื่องราวในกล่องความจำ เหตุเพราะต่อมาเมื่อต้องไกลกันด้วยระยะทางหรืออะไรก็ตาม ผ่านไปหนึ่งปี เธอพลันปฏิเสธการติดต่อของผมอย่างสิ้นเชิง เหลือไว้ก็แต่เรื่องราวในอดีต จนอีกปีผ่าน แผลสมานดีแล้วนั่นแหละ ผมจึงมีใครอีกคน ซึ่งเธอคนนี้ก็รู้ดีถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

ในแง่นี้กลับไปสงขลาครั้งหลังๆ จึงเหมือนการพาคนรักใหม่ไปตามรอยคนรักเก่าอยู่ไม่น้อย

แต่นั่นก็หาถูกเสียทีเดียว สงขลาคือบ้านเกิด ผมเลยมีความชอบธรรมในการไปดูว่าทุกวันนี้มันเป็นเช่นไร ซึ่งก็น่าดีใจที่รถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งแถววงเวียนใหญ่ในเมืองหลวงเรียกมันว่ารถกะป๊อนั้นยังมีอยู่ ย่านเก่าแถบถนนนครนอก ถนนนางงามก็มีการทำป้ายสื่อความหมายจนน่าเที่ยว ทรายบนหาดสมิหลาเองก็ยังเนียนสะอาดเหมือนเดิม โดยไม่จำเป็นต้องหาสเน่ห์เพิ่มด้วยการสร้างกระเช้าลอยฟ้าให้เสียเงิน เสียเวลา

IMG_5235

และมันก็น่าดีใจยิ่งขึ้นอีก เมื่อเธอคนที่ผมพาไปดูจะสนใจสงขลาด้วย ทั้งดูเหมือนอยากจะรู้อะไรให้มากกว่าเดิม หลังจากลงไปขีดๆ เขียนๆ รูปหนูกับแมวเล่นบนชายหาด ด้วยรู้ว่าผมมีอดีต เธอถามผมถึง ‘เธอคนนั้น’ เธอว่า “เสียใจไหม?  คิดถึงไหม? ไปตามหาเธอกันไหม?”

ผมได้แต่บอกว่า ก็นึกถึงบ้าง แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว ส่วนการไปตามหานั้นอย่าเลย เรื่องราวตอนนั้นก็เป็นเรื่องของตอนนั้น เรื่องราวตอนนี้ก็เป็นเรื่องของตอนนี้ วันนั้นผมมีความสุขดี วันนี้ผมก็มีความสุขดี

สำคัญคือไม่มีใครแทนใคร.

IMG_5195

(หมายเหตุ : ตีพิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ All way นิตยสาร Way ฉบับ65, กันยายน 2556)

Author

WAY

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า