มดเรียกพี่ในสะหวันนะเขต

งานบุญในสะัหวันนะเขต

เรื่องและภาพ : เสี้ยวจันทร์ แรมไพร

 สามถึงสี่วันแล้วที่ผมพยายามปรับตัวเข้ากับกรุงเทพฯ เพราะผมเดินทางไปอยู่ในเวลาที่ช้าของสะหวันนะเขต ซึ่งเป็นช่วงของวันสงกรานต์

ด้วยความกลัวกล้องเปียกน้ำ ผมจึงไม่ได้ถ่ายรูปเลย ปล่อยให้คนรักที่เดินทางไปด้วยบันทึกภาพ

เรานั่งเล่นกันที่ริมระเบียงของโรงแรม มองขบวนรถสาดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน บนฟุตปาธหนุ่มสาวเปิดเพลงฮิพฮอพดิ้นกันเมามัน บางคนโบกมือชักชวนเราให้ลงไปเล่นน้ำด้วย

ผมเคยสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าอารมณ์แบบอยากสนุกสนานมันหายไปไหน วัยรุ่นคึกคะนองเดินผ่านหน้าเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา จำได้แค่เลือนรางว่าเคยนั่งอยู่ในกระบะรถยนต์ข้ามจากศรีสะเกษมาเล่นน้ำที่แก่งสะพือ อุบลฯ

คนเฒ่าคนแก่เดินถือขันน้ำ คนหนุ่มคนสาวหิ้วถังน้ำซึ่งมีดอกมะลิลอยอยู่ เพื่อไปสรงน้ำพระในวัด เราเดินตาม…

ปะรำในวัดสะหวันนะเขต ตกแต่งงดงาม ในนั้นมีพระพุทธรูปอยู่มากมาย ทำให้ผมย้อนนึกไปไกลถึง 40 ปีที่แล้ว

เด็กๆ จะพากันมุดไปใต้ปะรำ เพื่อรอให้คนสรงน้ำพระ ประทิ่นกลิ่นน้ำหอมต่างๆ นานาจะไหลลงมาใส่ศีรษะ ให้ความรู้สึกชุ่มเย็นได้ถึงภายในจิตใจ น้ำผ่านพระพุทธรูปลงมาถือว่าเป็นสิริมงคลกับชีวิต หากเจ็บป่วยก็จะหาย หากมีโศกทุกข์ก็จะมลายสิ้น

เสียงพระอนุโมทนาญาติโยมที่มาทำบุญ เป็นเสียงอันคุ้นเคย ผมกับเธอเดินเข้าไปร่วมทำบุญ ยกเงินกีบใส่จรดหน้าผากอธิษฐาน เธอก็ทำเช่นเดียวกัน

พระก็อยากให้พร แต่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเมื่อเห็นฝรั่ง ทันใดนั้นก็ได้ยินประโยคว่า “ไอ โด้น เซ ว่ายังไง แต่ขอให้อยู่เย็นเป็นสุขนะ แวร์ อาร์ ยู คัม ฟอร์ม”

เธอหยิบใบเซียมซีเสี่ยงทาย 1 ใบ ผมก็หยิบมา 1 ใบเช่นกัน ใบเซียมซีที่ผมจับได้เป็นเบอร์ 8 เธอก็จับได้เป็นเบอร์ 8 เช่นเดียวกัน ตัวหนังสือเป็นตัวอักษรลาว อ่านไม่ออก ไม่รู้ความหมาย ไม่น่าเชื่อว่าเราจะหยิบได้ใบเดียวกัน

ผมเดินร้องเพลงออกจากวัด “เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้ ถ้าเคยทำบุญร่วมไว้ ถึงจะยังไงก็ต้องเจอะกัน เขาเรียกบุพเพสันนิวาสสร้างสรรค์ คงเคยตักบาตรร่วมขัน สร้างโบสถ์ร่วมกัน ไว้เมื่อชาติก่อน…”

เธอหันมายิ้มเต็มๆ ดวงตาของเธอก็ยิ้มด้วย ไม่รู้ว่าเธอรู้ความหมายหรือเปล่า…

ผมไหว้วานให้เด็กในร้านอาหารแพปลาชื่อ ‘สอนผิด’ (ผมถามแล้วถามอีกว่าออกเสียงว่าสอนผิดใช่ไหม เด็กยืนยันมั่นใจ) อ่านออกเสียงให้ฟัง แปลความหมายได้ว่า ชีวิตช่วงก่อนดั่งพระเวสสันดรชาดก ให้ทานลูกแก่พราหมณ์ เคยพลัดเคยพรากจากกัน ก็จะได้กลับมาพบกันอีก ประมาณนั้น…

“เบียร์สะหวันนะเขตอร่อยนะ ไอแปลกใจว่า ทำไมหาซื้อเบียร์ยี่ห้อนี้ไม่ได้ ไม่มีร้านไหนมีขายเลยสักแห่ง หรือว่ามีขายอยู่ร้านเดียวที่ร้านต้นน้ำ” ดวงตาของผมเริ่มฉ่ำ มองสายน้ำโขงยามเย็น จากตรงนี้มองเห็นวิวสะพานข้ามโขง

เธอเคยอ่านคำทำนายของหมอดูในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง บอกว่าหลังจากที่เธอกลับมาจากบ้านริมทะเลสาบแล้ว ชีวิตของเราจะหวานจน the ants call me older brother(มดเรียกพี่)

เธอบอกว่า การเดินทางทำให้เรารู้จักใจของตัวเอง ว่าชอบแบบไหน นับตั้งแต่การเลือกที่พัก ร้านอาหาร

เธอชอบเดินตลาดเช้า ดูวิถีชีวิตผู้คน มีความสุขกับการได้ชิมอาหารท้องถิ่น

ผมบอกกับเธอว่า บางครั้งเราไม่ต้องใช้ Lonely Planet ในการเดินทางก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ inner

เสน่ห์ของเมืองสะหวันนะเขตที่ผมชอบคือ ตึกรามบ้านช่อง อาหาร ผู้คนยิ้มแย้มเป็นมิตร เราสัญญากันว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อผ่านไปยังเว้ ฮอยอัน ประเทศเวียดนาม

“เชื่อในพรหมลิขิตไหม” ผมกุมมือเธอไว้

“ไม่เชื่อ…พี่ มันเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ถ้าใครคนหนึ่งเดินเข้าหาใครคนหนึ่ง แล้วเปิดใจให้กว้าง” เธอตอบอย่างมั่นใจ

“แล้วใบเซียมซีเบอร์ 8 ที่เราจับได้เหมือนกันล่ะ” ผมยังไม่หยุดคำถาม

“ในถาดคงมีเบอร์ 8 ทั้งหมดเลย…พี่” คำตอบของเธอทำให้ผมหัวเราะออกมา แล้วนึกย้อนไปในอดีต เมื่อก่อนผมเชื่อมั่นในเรื่องนี้หัวปักหัวปำ

“ระหว่างการเดินทางหลายปีก่อน เราหายไปจากกันที่ไหนนะ” ผมเอ่ยขึ้นมาลอยๆ มองดูเธอดูแผนที่ แล้วเดินตามเธอไปอย่างเงียบๆ

Author

ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ
หญิงแกร่งที่ทำงานทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านให้กับ WAY ถ้าเป็นนักฟุตบอลนี่คือผู้เล่นผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ในสายงานข่าว ทั้งคลุกคลี สัมภาษณ์ บันเทิง ไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้การเป็นคุณแม่ซึ่งมีลูกสาวย่างเข้าวัยรุ่นยังช่วยส่งเสริมให้สามารถปั่นงานด้านเด็กและเยาวชนอย่างเชี่ยวชาญ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า