เมื่อหลายเดือนก่อน เคยมีข่าวที่ทำให้นักการเมืองทั่วโลกเกิดอาการสะอึก เมื่อ โฮเซ มูจิกา ประธานาธิบดีแห่งอุรุกวัย บริจาคกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนประจำตำแหน่งของตัวเองเพื่อการกุศล ทำให้เขามีชีวิตอยู่ด้วยรายได้ที่เทียบกับค่าเฉลี่ยของรายได้ต่อเดือนของชาวอุรุกวัย ที่ราว 755 ดอลลาร์ (23,405 บาท) ล่าสุด จอยซ์ บันดา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมาลาวีได้ประกาศนำเครื่องบินประจำตำแหน่งออกประมูลเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในประเทศ
หลังจากที่นายบิงกู วา มูทาริกา ประธานาธิบดีคนก่อน เกิดหัวใจวายเฉียบพลันกระทันหันจนถึงแก่กรรมเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทำให้สภาวะเศรษฐกิจของมาลาวีเกือบล่มสลายชนิดตั้งตัวไม่ทัน ทำให้นางจอยซ์ บันดา ต้องเข้ามารับหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์กับผู้บริจาคกระเป๋าหนักทั่วโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศใหม่อีกครั้ง ด้วยสถานะการคลังของชาติที่ต้องพึ่งเงินทุนพัฒนาจากต่างชาติเป็นหลัก ทำให้จอยซ์ต้องบังคับควบคุมวินัยการคลังชนิดเข้มงวด
ประธานาธิบดีหญิงคนที่สองของกาฬทวีปไม่เคยย่างเท้าก้าวขึ้นเครื่องบินประจำตำแหน่งขนาด 14 ที่นั่งลำนี้ที่ถูกซื้อโดยประธานาธิบดีคนก่อนเลยสักครั้งเดียว สนนราคาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มูลค่ากว่า 13.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนางจอยซ์ ต้องการระดมทุนเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานให้ในเขตกันดารของประเทศ เพื่อเป็นการแสดงสปิริตว่าเธอต้องการลำบากและอยู่เคียงข้างประชาชนที่สนับสนุนเธอ โดยการปฏิเสธการใช้เครื่องบินส่วนตัว
นอกจากการจัดประมูลเครื่องบินแล้ว เธอยังประกาศลดเงินเดือนประจำตำแหน่งตัวเองลงอีก 30 เปอร์เซ็นต์ จนเหลือ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐ
“ผู้คนในมาลาวีส่วนใหญ่มีรายได้น้อยกว่านี้มาก เรายังต้องก่อร่างสร้างประเทศนี้ต่อไป บางทีประธานาธิบดีคนต่อไปอาจทำได้ดีกว่านี้เสียอีก” จอยซ์ อธิบาย
ในทศวรรษที่ 90 จอยซ์ บันดาได้ก่อตั้งองค์กรธุรกิจการเงินสำหรับสตรีแห่งชาติ สำหรับให้ยืมไปเป็นทุนดำเนินธุรกิจขนาดเล็ก เธอยังเคยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากกลุ่มฮังเกอร์ โปรเจ็ค (The Hunger Project)ในนิวยอร์ก เพื่อสร้างร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกในมาลาวี เธอยังได้ก่อตั้ง ‘มูลนิธิจอยซ์ บันดา’ เพื่อหาทุนการศึกษาสำหรับเด็กกำพร้าและให้ผู้หญิงมีเงินทุนประกอบกิจการยังชีพตนเองได้ ก่อนที่เธอจะลงสู่สนามการเมือง
*****************************************
(ที่มา : huffingtonpost.com)