ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นแห่งเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ตัดสินให้จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน จ่ายเงินจำนวน 72 ล้านดอลลาร์ให้กับสุภาพสตรีรายหนึ่งที่ป่วยเป็นมะเร็งรังไข่ระยะสุดท้าย ซึ่งฟ้องร้องว่าสาเหตุของโรคนั้นมาจากแป้งฝุ่น
ในรายละเอียด คณะลูกขุนแห่งเมืองเซนต์หลุยส์ ตัดสินว่า จอห์นสันแอนด์จอห์นสันต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวน 10 ล้านดอลลาร์ และอีก 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นค่าชดเชยแก่ครอบครัวของ แจ็คกี ฟอกซ์ สุภาพสตรีที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่เมื่อปีที่แล้ว หลังจากใช้แป้งจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์ติดต่อกันนานหลายปี
เบื้องต้นคณะลูกขุนตัดสินให้ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายรายใหญ่ของโลก จ่ายค่าเสียหายด้วยเหตุผลสำคัญ คือ ทางบริษัทรับทราบมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้วว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งแต่ก็ล้มเหลวที่จะแจ้งและตักเตือนผู้บริโภค
ที่ผ่านมา จอห์นสันแอนด์จอห์นสันถูกฟ้องร้องกว่า 1,200 คดี ที่ทั้งหมดอ้างอิงจากผลการศึกษาและวิจัยต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แป้งเด็กจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและผลิตภัณฑ์แบรนด์ชาวเวอร์ทูชาวเวอร์มีส่วนก่อให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่
คริสตา สมิธ หัวหน้าคณะลูกขุน ได้ขอเอกสารภายในของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพื่อนำมาให้คณะลูกขุนอ่านพิจารณาประกอบการตัดสิน และคำตัดสินก็ออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังจากพิจารณาหารือกันกว่าสี่ชั่วโมง
“มีความชัดเจนว่าบริษัทได้ปกปิดข้อมูลบางอย่างเอาไว้” สมิธกล่าวในฐานะหัวหน้าคณะลูกขุนแห่งเมืองเซนต์หลุยส์ “สิ่งที่บริษัทควรทำมานานแล้วคือติดฉลากเพื่อตักเตือนผู้บริโภค”
ทั้งนี้ เจอราร์ด โนส ทนายของจอหน์สันแอนด์จอห์นสัน ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ต่อคำตัดสิน
อัลเลน สมิธ ทนายความของครอบครัวแจ็คกี ฟอกซ์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า “นี่เป็นเพียงคำตัดสินจากการบริหารงานที่เลวร้ายของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน”
ที่ผ่านมา จอห์นสันแอนด์จอห์นสันเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นซึ่งมีส่วนผสมของแร่ทัลก์ ภายใต้แบรนด์ชาวเวอร์ทูชาวเวอร์ โดยในปี 1988 มีข้อความโฆษณาตอนหนึ่งระบุว่า “ปลุกวันสดใสด้วยการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้หมดไป”
แจ็คกี ฟอกซ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ในวัย 62 ปี ได้ให้การในช่วงหกเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิตว่า เธอใช้แป้งเด็กจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นชาวเวอร์ทูชาวเวอร์ทุกๆ เช้า จนกระทั่งตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็ง
หลายปีที่ผ่านมา แร่ทัลก์ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายหลากหลายชนิด หน้าที่สำคัญคือดูดซับความชื้น
ประมาณการว่ามูลค่าของแป้งเด็กในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 18.8 ล้านดอลลาร์ (ข้อมูลจาก Statistic Brain Research Group) และครัวเรือนสหรัฐราว 19 เปอร์เซ็นต์ใช้ผลิตภัณฑ์จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
จอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้วางขายแป้งเด็กที่ใช้แป้งข้าวโพดแทนแร่ทัลก์ตั้งแต่ช่วงปี 1970 แต่ก็ยังโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์ต่อไป และยังคงยืนยันมาตลอดว่าส่วนผสมที่ใช้มีความปลอดภัย
ที่มา: straitstimes.com
อ่านที่มาและข่าวย้อนหลังได้ ที่นี่