-1-
“ผู้หญิง ผู้หญิง” พวกเขากระซิบเป็นภาษาไทย อย่างชัดถ้อยชัดคำ พร้อมกับโชว์และรีบเร่งเก็บภาพถ่ายของเจดีย์ชเวดากองจำลองที่เมืองท่าขี้เหล็ก และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในท้องถิ่น ที่ไกด์เห็นว่านักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
หลายปีก่อน ขณะเดินข้ามสะพานมิตรภาพจากฝั่งแม่สาย ประเทศไทย เพื่อข้ามไปเก็บข้อมูลยังฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า
“ผู้หญิงสวยมาก” พวกเขาพูดซ้ำๆ เป็นภาษาไทย
นายแพทย์ท่านหนึ่งซึ่งทำงานให้กับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย (World Vision Foundation of Thailand) เคยกล่าวแบบติดตลก เมื่อสิบปีก่อนว่า บนพรมแดนไทย-พม่า คุณจะได้พบกับสถานที่ที่มีทั้งคนไทย พม่า จีน กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวต่างชาติอื่นๆ มาร่วมรักกัน มิใช่ก่อสงครามในสนามสู้รบ
ในอดีตที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เมืองแฝดบนชายแดนในเขตสามเหลี่ยมทองคำ มีชื่อเสีย(ง)หลายอย่างซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ตั้งแต่ การเป็นศูนย์กลางของการสู้รบของกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นแหล่งลำเลียงฝิ่นและเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) ที่สำคัญของพม่า เป็นศูนย์กลางการเคลื่อนย้ายของผู้ให้บริการทางเพศ เป็นตลาดมืดที่เจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่งตั้งแต่วีซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ หนังสือ ของเก่าโบราณ ของป่า ไปจนถึงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของทีมนักเสี่ยงโชค
-2-
พลิกข้อมูลสถานการณ์สถานบันเทิง ที่มีสิ่งบันเทิงครบวงจรไม่ว่าจะเป็น ผับ บาร์ คาสิโน บนชายแดนไทย–พม่า พบว่าบริเวณตลาดฝั่งท่าขี้เหล็กของพม่าติดกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หนาแน่นไปด้วยคาสิโนสมัยใหม่ทั้งใหญ่และน้อยเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือสถานบันเทิงที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดระลอกใหม่
ตามที่มีรายงานข่าวเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ว่า มีกลุ่มคนไทยเข้าไปทำงานและเที่ยวสถานบันเทิงในโรงแรม 1G1 ฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า จนมีผู้ติดโควิด-19 จากที่นั่นเพิ่มขึ้นแบบรายวัน ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึง ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2020 พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 46 ราย ในจำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าว เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2 ราย โดยมีประวัติใกล้ชิดผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากท่าขี้เหล็ก และเกินกว่าครึ่งตรวจพบในสถานที่กักกันโรคที่รัฐจัดให้
สถานบันเทิงในเมืองท่าขี้เหล็กซึ่งพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมากนั้น อยู่ห่างจากชายแดนด้านอำเภอแม่สายเพียง 1.5 กิโลเมตร สถานบันเทิงแห่งนี้ร่วมลงทุนโดยนักลงทุนต่างชาติ และมีคนไทยเข้าไปทำงานหลายร้อยคน เมื่อพบการติดเชื้อโควิดจึงถูกสั่งปิด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2020
นอกจากนี้ บนแนวพรมแดนไทย-พม่า ยังเป็นแหล่งรวมสถานบันเทิงครบวงจรที่มีชื่อเสียงอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยผู้ประกอบการมีทั้งที่เป็นชาวพม่า กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวพม่าเชื้อสายจีน รวมถึงคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอำเภอแม่สายเลยเข้าไปในเขตรัฐฉาน ที่มีคาสิโนอย่าง อัลลัวร์รีสอร์ต คาสิโน, เรจจินา และบ่อนในท่าขี้เหล็ก ที่เหล่านักเสี่ยงโชคและนักเที่ยวต่างเดินทางเข้าไปอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ทางด้านอำเภอเชียงแสนก็มีบ่อนคาสิโนโรงแรมโกลเด้น ไทรแองเกิล แอนด์ พาราไดซ์ รีสอร์ต ซึ่งก็เป็นที่รู้จักกันดีเช่นกัน
-3-
ถ้าถามว่าเหตุใดฝั่งท่าขี้เหล็กจึงคึกคักไปด้วยนักเสี่ยงโชคและนักเที่ยว คำตอบคือ นายทุนเล็งเห็นว่าเส้นทางอาเซียนไฮเวย์เส้น R3B จากจีน เชียงรุ่ง ผ่านเมืองลา เข้ามายังเชียงตุง ท่าขี้เหล็ก และเข้าไทยทางด่านแม่สายกลับมาใช้การได้ดี หลังจากที่ในอดีตติดขัดปัญหาเรื่องสงครามและการสู้รบระหว่างพม่าและชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น สถานบันเทิงครบวงจรจึงผุดขึ้นมารองรับนักเสี่ยงโชคและนักเที่ยวจากจีน รวมถึงนานากลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐฉาน ชาวพม่า และคนไทย ซึ่งต่างนำเงินไหลเข้าพม่าอย่างคึกคักคล้ายมวลแม่น้ำสายในฤดูฝนอันเชี่ยวกราก หลากไหลลงสู่แม่น้ำโขง
-4-
‘ท่าขี้เหล็ก’ หรือที่คนท้องถิ่นเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ท่าล้อ’ เป็นชื่อภาษาไทใหญ่ ที่เรียกอย่างนั้นมีคำอธิบายว่าเป็นเพราะมีต้นขี้เหล็กขึ้นอยู่ตามริมชายฝั่งของลำน้ำสาย จึงเรียกนามบ้านตามชื่อพรรณไม้นั้น และที่ชื่อว่าท่าล้อ ได้มาจากการที่พ่อค้าวัวต่าง (วัวขนสิ่งของ) ที่นำสินค้าต่างๆ จากที่ราบสูง มาค้าขายแลกเปลี่ยนกัน มักพาวัวมาหยุดพักอยู่บริเวณนี้ จนกลายเป็นด่านพักของขบวนวัวต่าง ผู้คนจึงพากันเรียกบริเวณนี้ว่าท่าล้อ (เกวียน)
ฝั่งท่าขี้เหล็กไม่ต่างไปจากบริเวณตามแนวชายแดนอื่นๆ ที่เป็นที่หลั่งไหลของผู้คนหลากหลายกลุ่มที่ต้องการเข้ามาเพื่อหางานทำ มีรายได้ ตลอดจนหวังเสี่ยงโชค รวยทางลัด
“ฉันได้ร่วมห้าพันแล้วนา ถ้าเลิกเสียตอนนั้นก็สบายไปแล้ว นี่เราอยากได้สักแปดพัน มันจึงดูดเราเอาเข้าไปตั้งสามพัน”
คนที่กลับมายังฝั่งไทย มักจะบ่นอย่างนี้แทบทุกคน—คำบรรยายของ ชยาวุธ ทีมงานของวารสารรายเดือนของภาคเหนือ ซึ่งได้เดินทางตามถนนราดฝุ่นจากตัวเมืองเชียงราย มุ่งหน้าอำเภอแม่สาย และลงเรือข้ามน้ำแม่สายที่ชายแดนไทย-พม่า ไปบันทึกภาพและจัดทำสารคดีเผยแพร่ลงในวารสารรายเดือน คนเมือง ปีที่ 1 ฉบับที่ 9 ประจำเดือนมีนาคม 1955
ไม่เพียงแต่ปัจจุบันที่เมืองชายแดนแห่งนี้ได้ดึงดูดล่อตาล่อใจนายทุน นักเสี่ยงโชคและนักเที่ยวให้เข้ามา แต่เป็นเช่นนี้มานานแล้วก่อนการมาถึงของยุคคาสิโนสมัยใหม่
ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1950 ผู้คนจากฝั่งไทยซึ่งอยู่ในจังหวัดภาคเหนือและจังหวัดใกล้เคียง ต่างเคยตระเตรียมทุนรอนเพื่อเดินทางข้ามมายังฝั่งท่าขี้เหล็ก เมื่อบ่อนการพนันขนาดใหญ่และคึกคักที่สุดแห่งลุ่มน้ำสายได้เปิดทำการขึ้น
คนที่เป็นเจ้ามือต่างก็ฝึกกลเม็ดเด็ดพรายให้ช่ำชองเพื่อดูดเงินจากกระเป๋าลูกค้า ส่วนคนที่เป็นนักเล่นก็คิดแผนการที่จะกวาดเอาเงินจากเจ้ามือมาเข้ากระเป๋าตัวเอง
-5-
ประวัติศาสตร์เสี่ยงโชคบนตะเข็บชายแดนไทย-พม่า เท่าที่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเกิดขึ้นมานานแล้ว ที่มีการกล่าวถึงมากและเป็นที่กล่าวขวัญถึงของคนในพื้นที่ก็ คือ ‘ปอยปางวาด’ (คำว่า ปอย ในภาษาไทใหญ่และคำเมืองล้านนาเป็นคำยืมมาจากภาษาพม่า ပွဲ (ปแว) แปลว่า งานเฉลิมฉลองใหญ่น้อย ทั้งมงคลและอวมงคล ส่วนปางวาด เป็นชื่อสถานที่ที่เป็นที่ตั้งของบ่อนพนัน อยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก)
ชยาวุธบรรยายว่า ในทุกๆ ปี ที่ปางวาดจะมีงานปอย ซึ่งไม่มีอะไรขึ้นหน้าขึ้นตาสักอย่างเดียว บริเวณคับแคบ ร้านรวงปลูกสร้างอย่างหยาบๆ ไม่มีการประดับตกแต่งใด ทั้งแสงและสี แต่สิ่งเดียวที่มี คือการพนันทุกประเภท งานปอยที่ปางวาด จึงมีความหมายแต่เพียงว่า บ่อนการพนันใหญ่ได้เปิดขึ้นแล้ว ใครอยากร่ำรวย – หรือฉิบหายขายตัวก็เชิญ
สมัยนั้น ปอยปางวาดที่ท่าขี้เหล็กเป็นคาสิโนโบราณขนาดใหญ่ของผู้คนสองฝั่งน้ำแม่สาย ที่จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ช่วงปลายปียาวไปถึงช่วงตรุษจีน มีหลักฐานว่าเริ่มจัดอย่างใหญ่โต ตั้งแต่ปี 1948 หลังอังกฤษให้เอกราชพม่า โดยเจ้าฟ้าไทใหญ่หรือนักปกครองรัฐฉานที่ยังมีอิสระในการปกครองพื้นที่อยู่มาก ภายหลังจากที่อังกฤษได้มอบเอกราชให้แก่พม่า
มีการเปิดให้เล่นการพนันอย่างเสรีกลางลานกว้างแบบแบกะดิน และบนร้านไม้มุงหลังคาสูงแค่เอวไม่มีฝากั้น มีการพนันทั้งแบบของจีน พม่า และไทใหญ่ หลากหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไพ่ผ่องจีน จับยี่กี ถั่ว โป ไฮโล น้ำเต้าปูปลา และอื่นๆ
ที่นั่น ใครอยากจะเล่นการพนันประเภทไหน มีให้เล่นทุกอย่าง ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจับ ไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการพนันบังคับใช้ ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนที่เปิดให้เข้ามาเล่นได้ การเล่นพนันที่ท่าขี้เหล็กสมัยนั้น เขาเล่นกันแบบหามรุ่งหามค่ำ ทั้งวันทั้งคืน
การจัดบ่อนการพนันในงานปอยที่ปางวาด นอกจากจะมีการพนันชนิดต่างๆ ให้เลือกเล่นกันได้ตามปรารถนาแล้ว ในบริเวณบ่อนยังมีร้านรับซื้อทองรูปพรรณตามราคาท้องตลาด มีสถานที่มิดชิดพอสมควรสำหรับให้นักพนันปล่อยเช่าร่างกาย (สำหรับหญิงผู้ต้องการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน) และมีฝิ่นให้สูบฟรี เพื่อบริการนักเสี่ยงโชคที่อับโชค หมดเนื้อหมดตัว
การเล่นพนันในยุคปอยปางวาดนิยมการพนันที่มีการทายรูปสัตว์หรือสิ่งของ ต่างกับชนิดการพนันในปัจจุบันที่นิยมทายกันเป็นตัวเลข การพนันรูปสัตว์ที่ฮิตมาก คือ
(1) มะโขกโหลก ใช้วิธีทอดด้วยลูกเต๋าขนาดใหญ่ 3 ลูก ลูกเต๋าเหล่านี้มีรูปสัตว์ต่างๆ เป็นเครื่องหมายแทนตัวเลข
(2) แจ๊กกะเล้ หรือ แจ๊ะกะเล (ไก่) หรือ เลก่องจีน เป็นโปปั่น มีสี่หน้า เป็นรูปสัตว์หน้าละรูป คือ ไก่ ปลาไหล หมูและกบ เจ้ามือและคนแทงจะร้องเสียงดังว่า แจ๊กกะเล้ เมื่อหน้ารูปไก่หงายขึ้น พร้อมกับทำท่าทางขยับแขนขึ้นลงคล้ายปีกไก่ จนกลายมาเป็นชื่อเรียกเกมการพนันนี้
(3) มะก่องถี่ เป็นหวยที่มีรูปสัตว์ 36 ชนิด วางพาดอยู่ตามอวัยวะต่างๆ ของรูปคน วิธีการแทง การออกหวยคล้ายกับหวย ก.ข. ของไทยสมัยก่อน แต่จะใช้รูปสัตว์ต่างๆ เป็นตัวหวยแทน ไทใหญ่รับเอาคำพม่ามาเรียกแบบไทใหญ่ว่า ‘หมาก ก่อง ถี่’ และกร่อนเป็น ‘มะก่องถี่’
มีตำนานเล่ากันว่า ผู้เป็นเจ้ามือที่มีชื่อเสียงที่สุด คือเจ้าฟ้าเชียงตุง กับชาวจีนชื่อ เม่งหลี โดยแต่ละงวดเจ้ามือจะเลือกรูปหนึ่งรูปใส่ไว้ในตลับ ห่อด้วยผ้า ปิดไว้อย่างมิดชิด แล้วชักรอกขึ้นไปบนปลายเสาหน้าโรงรับแทง มีป้ายเขียนข้อความซ่อนปริศนาเอาไว้ และบอกใบ้ให้คนเล่นนำไปคิดตีความออกมา ก่อนที่จะตัดสินใจแทง
ยกตัวอย่างคำใบ้เช่น ห้าปีโผล่มาหนึ่งหน แล้วดั้นด้นเข้าไปอยู่ในวงตะกร้อลีลา เหล่านักเสี่ยงโชคเขาก็ตีความกันว่าเป็นแมงมุม เพราะแมงมุมชักใย เหมือนกับเวลาคนล้อมวงเตะตะกร้อเป็นวงกลม
ปอยปางวาด ฝั่งท่าขี้เหล็กเปิดให้เล่นเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อต้นปี 1962 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่นายพลเนวินทำรัฐประหารล้มล้างรัฐธรรมนูญ และผนวกเอารัฐของกลุ่มชาติพันธุ์ที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษฝากไว้ให้รวมเข้ากับสหภาพพม่าเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 1962
ในอดีต คาสิโนโบราณในเขตแม่สาย–ท่าขี้เหล็ก เต็มไปด้วยการพนันนานาชนิด เรียกได้ว่าเป็นการพนันนานาชาติ ที่มีทั้งของพม่า จีน ไทใหญ่ ซึ่งแฝงอยู่ในวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม ของผู้คนตามแนวชายแดนลำน้ำสายมาเป็นเวลานาน จนหลงคิดกันไปว่าการเล่นทายรูปสัตว์แทงเงินหาใช่การเล่นการพนันอย่างที่เข้าใจในปัจจุบันไม่ แต่เป็นการเล่นเสี่ยงทายอย่างธรรมดาทั่วไปที่พบได้ตามงานวัดหรือในเทศกาลต่างๆ
ด้วยความเป็นเมืองชายแดน จึงทำให้ผู้คนทั้งสองฝั่งยังคงไหลทะลักเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย ทั้งยังมีการหลั่งไหลในรูปแบบใหม่ที่ซับซ้อนกว่าเดิม รวมถึงแรงงานข้ามชาติอีกนับหมื่นนับแสนคนที่ทะลักเข้ามาฝั่งไทย ขณะเดียวกันก็สวนทางกลับเข้าไปยังฝั่งท่าขี้เหล็กก็มีไม่น้อย
-6-
คาสิโนสมัยใหม่เริ่มเข้ามาในท่าขี้เหล็ก เมื่อปี 1999 หลังจากที่รัฐบาลทหารพม่าในสมัยนั้นมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเป็นการลงทุนของนักธุรกิจชาวไทย การตั้งคาสิโนในเขตท่าขี้เหล็ก อยู่ภายใต้นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลพม่า ทำให้ทุกคาสิโนในท่าขี้เหล็กต้องมีโรงแรมที่พักควบคู่กันไปด้วย โดยมีลักษณะเป็นสถานบันเทิงครบวงจร เช่นเดียวกับในเขตพรมแดนจีน-พม่า ธุรกิจพนันและคาสิโนเป็นรายได้อย่างหนึ่งของกองทัพและการบริหารในเขตปกครองตนเองในรัฐฉาน
ท่าขี้เหล็กจึงเป็นดินแดนที่ยังเป็นความใฝ่ฝันของทั้งนายทุน นักเสี่ยงโชค รวมถึงนักปกครองทั้งหลาย สืบเนื่องมาตั้งแต่ก่อนยุคคาสิโนสมัยใหม่จะมาถึง
บ่อนปางวาดที่ทางการพม่าไม่อนุญาตให้จัดอีก แต่แท้จริงแล้วไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ที่เดิม เพียงแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในโรงแรมชั้นหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้