แม้ว่า หาว จิงฟาง (Hao Jingfang) จะถูกประกาศเป็นผู้ชนะรางวัลฮิวโก (Hugo Award) ประจำปี 2016 รางวัลสำหรับนิยายวิทยาศาสตร์และแฟนตาซี หากแฟนนิยายไซไฟในประเทศยังกังขากันว่า งานเขียนของเธอไม่ได้มีแนวขนบและคาแรคเตอร์ที่เหมาะสมกับความแฟนตาซีล้ำยุคเอาเสียเลย
หรือคำวิจารณ์ใหญ่โตที่ว่า งานเขียนเธอชนะการประกวดเพราะนิยายของเธอเล่าความมืดมนของประเทศจีน ตามแต่ที่พวก Western อยากเห็น…ก็เท่านั้นเอง
Folding Beijing คืองานเขียนชิ้นดังกล่าว หาวให้สัมภาษณ์กับ Globaltimes เพื่อชี้แจงต่อข้อวิจารณ์นี้ว่า เธอไม่คิดจะผลักให้งานเขียนของตัวเองเข้าไปอยู่ในกรอบใด
“บางทีองค์ประกอบของนิยายไซไฟอาจไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงอวกาศ ไม่ต้องเป็นเรื่องอนาคต เทคโนโลยี หรือมีกรอบเกณฑ์อะไร หรือไม่อีกที มันอาจเป็นเรื่องปัจจุบันหรือแม้แต่เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ก็ได้นะ”
หาวซ่อนอุดมการณ์ของเธอไว้ใน Folding Beijing
แม้แต่แรงบันดาลใจของนิยายเรื่องนี้ เธอก็ได้มาจากคืนวันที่ได้คุยกับคนขับแท็กซี่คนหนึ่ง เขาบ่นเรื่องการทำงานหาเงินเพื่อส่งให้ลูกได้เข้าเรียน…แต่ทำเท่าไรก็ไม่พอ Folding Beijing จึงเป็นการกลับไปสำรวจซอกหลืบของมุมเมือง และหยิบเอาชีวิตของคนที่สังคมมองไม่เห็นนำขึ้นมาพูด
“ฉันอยากจะหยิบเรื่องของผู้คนที่ไม่เคยมีใครเห็น นำออกมาเล่าให้ใครๆ ได้เข้าใจ”
มากกว่านั้น หาวยังเป็นหนึ่งในคณะผู้ทำงานเพื่อเด็กที่ถูกทิ้งในประเทศจีน (China Development Research Foundation) ด้วยการออกแบบการจัดหาทุน และจัดเทรนครูเพื่อส่งไปให้การศึกษากับเด็กๆ ที่ถูกผลักออกจากระบบกลุ่มนี้ เธอยังมีโปรเจ็คท์ส่วนตัวกับเพื่อนในการก่อตั้งบริษัทจัดทำทัวร์ เพื่อการระดมทุนช่วยเหลือเด็กๆ ในกลุ่มนี้อีกด้วย
หาวเคยเข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยชิงหัว (Tsinghua University) ก่อนจะเบนสายไปสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในสาขาเศรษฐศาสตร์
ปัจจุบัน หาวเป็นนักเศรษฐศาสตร์ เป็นแม่ และนักเขียนนิยายไซไฟ ซึ่งการมีอาชีพที่ซ้อนทับกันอย่างนี้ ทำให้เธอจัดเวลาการเขียนให้อยู่ในช่วงเวลาตี 3 ของทุกๆ วัน และเขียนอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งลูกสาวอายุ 2 ขวบของเธอตื่นนอน