สมาชิกวุฒิสภาแห่งสภาคองเกรสลงคะแนนเสียงรับรองให้นักกฎหมายชาวอเมริกันอินเดียนเป็นผู้แทนของสหรัฐอเมริกาในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council: UNHRC) ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้แทนทางการทูตของประเทศคนแรกที่เป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเคยเสนอชื่อของเขาเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ คีธ ฮาร์เปอร์ ทนายความชาวเชโรกี (กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันอินเดียนกลุ่มหนึ่งในสหรัฐอเมริกา) ผู้ได้รับตำแหน่งผู้แทนประเทศใน UNHRC เป็นหนึ่งในทนายความผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการต่อสู้ในคดี ‘Cobell v. Salazar’ คดีความในปี 2009 ที่ขับเคลื่อนโดยชาวพื้นเมืองอเมริกันกว่า 500,000 คนเพื่อยื่นฟ้องต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในกรณีที่รัฐจัดการรายได้ผิดพลาดจากทรัพย์สินของชนพื้นเมืองเช่น เหมืองและบ่อน้ำมัน ทำให้ชนพื้นเมืองอเมริกันที่ถือฉโนดไม่ได้รับการจ่ายเงินคืนจากรัฐมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ คดีความดังกล่าวได้รับชัยชนะในที่สุด และถือได้ว่าเป็นการฟ้องร้องคดีแบบกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ความสำเร็จของคดีและการต่อสู้เพื่อสิทธิของชนพื้นเมืองอเมริกาที่คีธทำมาตลอดทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาให้เป็นตัวแทนด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ ทว่าสมาชิกวุฒิสภาพรรคริพับลิกันอย่าง จอห์น แมคเคน กลับมองว่าการผลักดันคีธให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นเพียงอีกหนึ่งในการสนับสนุนแคมเปญหาเสียงของพรรคเดโมแครตและโอบามา และยังกล่าวหาว่าในคดีที่สร้างชื่อเสียงให้กับคีธนั้น แท้จริงแล้วเขาและพรรคพวกทนายเรียกค่าทำคดีจากเงินที่รัฐต้องจ่ายคืนในจำนวนเงินที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงคีธยังถูกเปิดเผยว่าเป็นคนที่ชอบใช้เทคนิกข่มขู่ทนายความคนอื่นๆ ระหว่างการทำคดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สมาชิกวุฒิสภาได้ลงคะแนนเสียงรับรองให้คีธดำรงตำแหน่งดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 52 ต่อ 42 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการได้รับตำแหน่งในครั้งนี้ของคีธถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจและสร้างความหวังที่จะมีพื้นที่ในตำแหน่งทางการเมืองของชาวชนพื้นเมืองอเมริกันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
************************************************
ที่มา: huffingtonpost.com