เช้ามืดของวันที่ 16 กรกฎาคม 1990 ลิเลียนา ริเวรา การ์ซา (Liliana Rivera Garza) นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาตร์วัย 20 ปี ถูกฆาตกรรมในแฟลตของเธอที่เขตอัซคาโปตซาโก ย่านผู้ใช้แรงงานในเม็กซิโกซิตี้ ฆาตกรคือ อังเกล กอนซาเลซ รามอส (Ángel González Ramos) แฟนหนุ่มของเธอเอง เขาหลบหนีอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งปี 2019 หรือกว่า 30 ปีที่คนร้ายลอยนวล คริสตินา ริเวรา การ์ซา (Cristina Rivera Garza) พี่สาวของผู้ตายทวงความยุติธรรมด้วยการเขียนนิยายเรื่อง Liliana’s Invincible Summer (2023) ที่ช่วยสร้างความเข้าใจปัญหาความรุนแรงทางเพศในเม็กซิโกมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ในปี 2012 รัฐบาลเม็กซิโกกำหนดให้ ‘Femicide’ หรือการเจตนาฆ่าเหยื่อเพศหญิง เป็นอาชญากรรมพิเศษ (a specific crime) ในประมวลกฎหมายอาญาของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม อัตราผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมในเม็กซิโกมีมากกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 2 เท่า โดยเหยื่อจำนวนไม่น้อยยังคงไม่ได้รับความเป็นธรรม เฉพาะในปี 2017 เม็กซิโกมีการตัดสินคดีฆาตกรรมผู้หญิงเพียงไม่ถึงร้อยละ 10 ขณะที่สหรัฐอเมริกามีมากกว่าร้อยละ 60 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่างกันมาก
Impunidad Cero องค์กรประชาสังคมด้านการวิเคราะห์ข้อมูลในเม็กซิโก ระบุว่า ปี 2021 มีคดีฆาตกรรมผู้หญิงในเม็กซิโกมากกว่า 1,000 คดี อย่างน้อยครึ่งหนึ่งไม่สามารถปิดคดีได้ และความรุนแรงส่วนใหญ่ไม่มีแม้กระทั่งการรายงานให้สาธารณชนทราบ
นอกจากนี้ การกล่าวโทษเหยื่อ (victim blaming) ยังเป็นทัศนคติที่ครอบงำสังคมเม็กซิโก เป็นต้นว่า “เธอควรแต่งงานก่อนแล้วค่อยมีเซ็กส์” หรือ “ถ้าเธอไม่ทำแท้ง (ลิเลียนา) คงไม่พบจุดจบเช่นนี้”
ความหึงหวงและพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของอังเกล กอนซาเลซ รามอส แฟนหนุ่ม แม้เป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะฆ่าลิเลียนา จนดูเหมือนเรื่องปกติธรรมดาในสังคมที่ฆาตกรลอยนวลพ้นผิด
คริสตินาพยายามสะท้อนให้เห็นว่า สังคมเม็กซิโกส่วนใหญ่ยังคงมีทัศนคติเช่นนั้น โดยอ้างถึงหนังสือ No Visible Bruises (2019) ที่เขียนโดย ราเชล ลูอิซ สไนเดอร์ (Rachel Louise Snyder) อันเป็นการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่มักถูกมองข้ามในผู้หญิงที่ถูกฆ่าโดยคนรักในปัจจุบันหรือคนรักเก่าก็ตาม ซึ่งสไนเดอร์พยายามชี้ว่า รากเหง้าของความรุนแรงเกิดจากปัญหาส่วนตัวในครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ
ขณะที่งานเขียนของคริสตินา เล่าถึงลิเลียนาในฐานะนักศึกษาที่มีพรสวรรค์ รักชีวิตการผจญภัยในเมืองใหญ่ เธอนำเสนอภาพของน้องสาวที่สดใส เป็นอิสระ ซื่อสัตย์ ซื่อตรง และมีแง่มุมที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ คริสตินารวบรวมสมุดบันทึก รายชื่อเพลงที่ลิเลียนาเคยฟัง รวมถึงจดหมายโต้ตอบจากเพื่อนๆ ซึ่งมักติดสติกเกอร์ ‘Hello Kitty’ ขณะเดียวกัน ก็รวบรวมรายงานของตำรวจ บทความ ข่าว และบทสัมภาษณ์เพื่อนและเพื่อนร่วมงาน นำมาปะติดปะต่อร้อยเรียง
Liliana’s Invincible Summer (2023) แสดงอย่างชัดเจนว่า การฆาตกรรมลิเลียนาเป็นผลพวงจากความรุนแรงในสังคม ขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดชีวิตจริงของเหยื่ออย่างสะเทือนอารมณ์
เพื่อประกอบการเขียนหนังสือ คริสตินาเปิดอีเมลรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชายที่ฆ่าน้องสาวของเธอ ในบัญชีอีเมลดังกล่าว เธอได้รับคำแนะนำจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือในสิงหาคม ปี 2021 ว่าเขาน่าจะอาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้โดยใช้ชื่อสมมุติ แต่ภาพที่ปรากฏบนเว็บไซต์อนุสรณ์ออนไลน์ (online memorial website) ระบุว่า เขาเสียชีวิตในปี 2020
คริสตินาจึงขอคำยืนยันจากหน่วยงานในสหรัฐอเมริกา และตอนนี้เชื่อว่าชายในภาพคือแฟนเก่าของลิเลียนาจริงๆ ขณะนี้เธอกำลังรอการยืนยันขั้นสุดท้ายจากทางการเม็กซิโก
“ผมเชื่อในเสรีภาพเสมอ เพราะเสรีภาพเท่านั้นที่จะทำให้เรารู้ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร” พ่อของลิเลียนาและคริสตินากล่าวกับ The Economist “เสรีภาพไม่ใช่ปัญหา ผู้ชายต่างหากคือปัญหา โดยเฉพาะผู้ชายที่ใช้ความรุนแรง เย่อหยิ่ง และเป็นพวกฆาตกร”
ที่มา
- An author reconstructs the life of her murdered sister
- An Author Wrote About Her Sister’s Murder. It Led to a Breakthrough.
- รัฐบาลสเปนหารือเข้ม Femicide ระบาด (คดีฆาตกรรมผู้หญิง) เฉลี่ย 59 รายต่อปี