10ปีผ่านไป ใครๆ ก็ Look Back ตัวเองผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์สีฟ้าอย่างเฟซบุ๊ค ที่เราและเพื่อนร่วมโลกอีกว่า 1 พันล้านคน เข้าไปใช้และให้เวลากับมันราวกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ในทางกลับกัน ถ้าเราในฐานะผู้บริโภค บางคนอาจถึงขั้นเสพติด หันกลับไปมอง (Look Back) เฟซบุ๊คในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาว่า ผลิต ปรุง และป้อน อะไรใส่เราบ้าง ปลอดภัยไหม มีประโยชน์หรือเปล่า หรือเอาเข้าจริงๆ ก็แอบเป็นพิษเป็นภัยต่อชีวิต
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 …
กุมภาพันธ์ 2004 – มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เริ่มสร้างเฟซบุ๊คในหอพัก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
มีนาคม 2004 – เฟซบุ๊คเริ่มชักชวนนักศึกษามหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมใช้เครื่อข่ายปิดดังกล่าว
มิถุนายน 2004 – เฟซบุ๊คย้ายสร้างสำนักงานที่พาโล อัลโต แคลิฟอร์เนีย
กันยายน 2004 – เฟซบุ๊คแนะนำหน้า Wall (the Wall) เปิดพื้นที่ให้คนระบายความคิดและเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ในหน้าโปรไฟล์ ในเวลาเดียวกัน มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ถูกฟ้องร้องว่าขโมยความคิดเรื่องเครือข่ายสังคมออนไลน์มาจากเพื่อนร่วมก่อตั้ง คาเมรอน-ไทเลอร์ วิงเคิลวอส และ เอดูอาร์โด ซาฟเวอรีน (third person)
กันยายน 2005 – เฟซบุ๊คขยายฐานไปถึงนักเรียนชั้นมัธยมปลาย
พฤษภาคม 2006 – เฟซบุ๊ค เปิดตัวเครือข่ายเสริม ที่อนุญาตให้คนที่มาพร้อมอีเมล์หน่วยงานหรือบริษัทเข้าร่วมใช้เฟซบุ๊ค
กันยายน 2006 – เฟซบุ๊คเริ่มแนะนำให้บุคคลอายุ 13 ปีขึ้นไปมาสมัครใช้บริการ และยังแนะนำบริการ News Feed ที่เก็บโพสต์จากWall ของแต่ละคนมานำเสนอไว้ในหน้าเดียว แม้ว่าจะได้รับเสียงวิพากษ์วิพากษ์เรื่องละเมิดความเป็นส่วนตัวสูงในระยะแรก แต่ต่อมา News Feed ก็กลายมาเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ยอดนิยมที่สุดของเฟซบุ๊ค
พฤษภาคม 2007 – เฟซบุ๊คเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งเป็นระบบที่เปิดให้โปรแกรมเมอร์ภายนอกได้พัฒนาเครื่องมือสำหรับแชร์รูปภาพ สร้างควิซและเกมต่างๆ ระบบนี้ช่วยทำเงินเข้ากระเป๋าเฟซบุ๊คมหาศาล และ ยังเปิดให้บริษัทต่างๆ เช่น บริษัทผู้ผลิตเกมต่างๆ อย่าง Zynga เข้ามาร่วมธุรกิจจนประสบความสำเร็จงดงาม
ตุลาคม 2007- เฟซบุ๊คตกลงขายหุ้น 1.6 เปอร์เซ็นต์ให้กับไมโครซอฟท์ในมูลค่า 240 ล้านดอลล่าร์ และ ควบรวมให้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้านโฆษณา
มีนาคม 2008 – เฟซบุ๊คว่าจ้างเชอรีล แซนด์เบิร์ก ในตำแหน่งซีโอโอหรือ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารคนสำคัญของกูเกิล
เมษายน 2008 – เฟซบุ๊ค แนะนำโปรแกรม Chat
กุมภาพันธ์ 2009 – เฟซบุ๊ค แนะนำปุ่ม Like ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกเข้าไปแสดงความชอบหรือสนับสนุนโพสต์ต่างๆ
มิถุนายน 2009 – เฟซบุ๊คแซงหน้ามายสเปซ ขึ้นสู่เจ้าแห่งเครือข่ายสังคมออนไลน์ของสหรัฐอเมริกา
สิงหาคม 2009 – เฟซบุ๊คเปิดตัวฟีเจอร์ Location เปิดให้สมาชิกแบ่งปันกับเพื่อนๆ ว่าอยู่ ณ จุดไหนในโลก
ตุลาคม 2010 – ภาพยนต์เรื่อง The Social Network ที่นำเสนอเรื่องราวของมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก และ การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่างผู้ก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์สีฟ้า ก็ลงโรงอย่างเป็นทางการ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 8 สาขา และคว้ากลับมาได้ 3 สาขา
มิถุนายน 2011 – กูเกิลท้าชนด้วยการเปิดตัวเครือข่ายสังคมออนไลน์ภายใต้ชื่อ Plus เป็นเวลาเดียวกับสองพี่น้องวิงเคิลวอสยุติคดีความกับซักเกอร์เบิร์ก รวมทั้งได้เงินชดเชยในจำนวนมากกว่า 65 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าทุนแรกเริ่มในการก่อตั้งเฟซบุ๊คในปี 2008
กันยายน 2011 – เฟซบุ๊คแนะนำ Timeline รูปแบบล่าสุดของหน้าโปรไฟล์ ซึ่งตั้งใจเผยให้เห็นเรื่องราวและภาพเด่นต่างๆ ตลอดช่วงชีวิตมากกว่าโชว์แค่โพสต์ล่าสุด
พฤศจิกายน 2011 – เฟซบุ๊ค ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับกรณีที่ไปละเมิดความเป็นส่วนตัว และทำให้คนเปิดเผยข้อมูลมากกว่าที่ตกลงกันไว้เมื่อสมัครเข้าใช้เฟซบุ๊ค และยังตกลงด้วยว่าก่อนที่จะบริษัทจะเปลี่ยนวิธีการเก็บและดูแลข้อมูลใดๆ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เสียก่อน
ธันวาคม 2011 – เฟซบุ๊คย้ายสำนักงานไปอยู่ที่เมนโล พาร์ค แคลิฟอร์เนีย ที่อยู่คือ 1 Hacker Way, Menlo Park, 94025
กุมภาพันธ์ 2012- เฟซบุ๊คเสนอแนวคิดขายหุ้นต่อประชาชน และ ไม่กี่อาทิตย์หลังจากนั้น เฟซบุ๊คก็เปิดตัวช่องทางสำหรับการโฆษณาและเผยแพร่ โดยยินยอมให้โฆษณาเข้าโผล่ปะปนในการอัพเดทสถานะ รูปภาพ หน้า Feed
เมษายน 2012 – เฟซบุ๊คประกาศแผนซื้อ อินสตาแกรม เครือข่ายสังคมออนไลน์สำหรับแบ่งปันรูปภาพ ในราคา 1 พันล้านดอลลาร์ทั้งในแบบเงินสดและหุ้น และโครงการดังกล่าวถูกบรรจุอยู่ในเอกสารเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหุ้นในฐานะบริษัทมหาชน
พฤษภาคม 2012 – ราคาหุ้น IPO หรือหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนครั้งแรก ราคาอยู่ที่ 28 – 35 ดอลล่าร์ แต่จากนั้นราคาก็ขยับไปเรื่อยๆ จน 17 พฤษภาคม ราคาอยู่ที่หุ้นละ 38 ดอลล่าร์ และ ตลาดหุ้นก็เริ่มขายในวันถัดไป และอีก 2-3 สัปดาห์ถัดไป ราคาหุ้นก็เริ่มตกลงท่ามกลางความกังวลว่าเฟซบุ๊คจะสามารถรักษารายได้ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ได้หรือไม่
สิงหาคม 2012 – เฟซบุ๊คพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับไอโฟนและไอแพดให้ใช้งานได้เร็วมากขึ้น
กันยายน 2012 – เฟซบุ๊คซื้ออินสตาแกรมไปด้วยเงินสด 300 ล้านดอลลาร์ , หุ้นของ Facebook จำนวน 12 ล้านหุ้น ให้กับนักลงทุนของ Instagram , หุ้นของ Facebook อีก 11 ล้านหุ้นให้กับพนักงานและผู้ก่อตั้ง เมื่อตีหุ้นออกเป็นมูลค่าตามราคาตลาดจะอยู่ที่ 715 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าตัวเลขเดิมที่ประเมินค่าไว้ 1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากหุ้นของ Facebook มูลค่าลดลงมากในช่วงหลัง
ตุลาคม 2012 – เฟซบุ๊คเปิดเผยว่ามีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคนแล้ว
ธันวาคม 2012 – เฟซบุ๊คเปิดตัวแอพพลิเคชั่น รับ-ส่ง ข้อความ (messenger) ชื่อ Poke
มกราคม 2013 – เฟซบุ๊คเปิดตัวโปรแกรมค้นหา ที่จะทำให้สมาชิกค้นหาข้อมูล ความสนใจ ภาพ สถานที่ จากเครือข่ายเพื่อนที่มีอยู่ได้รวดเร็วมากขึ้น
เมษายน 2013 – เฟซบุ๊คเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กับตระกูลแอนดรอยด์ โดยเฉพาะ Facebook Home ที่เปรียบเสมือนเป็น Launcher อีกตัวหนึ่ง ที่มีการออกแบบหน้า home screen หรือ หน้า lock screen ในรูปแบบใหม่ ให้โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่ดาวน์โหลด Facebook home มาใช้ กลายเป็น Facebook Phone ไปโดยอัตโนมัติ
มกราคม 2014- เฟซบุ๊ค เริ่มแสดง trending topic คือให้ผู้ใช้เห็นว่ามีประเด็นอะไรบ้างกำลังเป็นที่สนใจในช่วงเวลานั้นๆ
กุมภาพันธ์ 2014 – ในวาระครบรอบ 10 ปี เฟซบุ๊คเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ชื่อ Paper สำหรับอ่านข่าวและเครือข่ายสังคมต่างๆ กับผู้ใช้ล่าสุดกว่า 1.22 พันล้านคน ยังไม่รวมอีก 945 ล้านคนที่ใช้งานผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่
“10 ปีต่อจากนี้จะยิ่งน่าตื่นเต้นมากขึ้น 10 ปีแรกเหมือนกับการปลุกเครือข่ายให้ตื่นขึ้น และตอนนี้เรามีทรัพยากรพร้อมที่จะพาผู้ใช้ ข้ามไปอีกฟากโลก เพื่อแก้ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นและสำคัญมากยิ่งขึ้น” ซัคเกอร์เบิร์กว่าเอาไว้ และเป้าหมายของเขาในอนาคตคือ เฟซบุ๊คจะไม่ใช่แค่เครือข่ายสังคมออนไลน์แต่จะเป็นประตูสู่โลกออนไลน์ เฟซบุ๊คจะเป็นทั้งหนังสือพิมพ์ เป็นสื่อกลางสำหรับการสื่อสาร เป็นกล่องเก็บสมบัติและเป็นชีวประวัติส่วนตัวแบบออนไลน์
………………………………………
ที่มา : http:// phys.org, www.theguardian.com