ในตลาดน้ำเมาของประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นของเหลวแล้ว ยังมีการคิดค้นและสร้างกลวิธีแปลกๆ ในการดึงดูดให้ผู้บริโภคซื้อหามาทดลองดื่มอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิปครีมผสมแอลกอฮอล์, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผสมวิตามิน ไปจนถึงเครื่องมือที่ทำให้แอลกอฮอล์ระเหยกลายเป็นไอและสูดดมแทนการดื่ม
แต่ดูเหมือนพัฒนาการของผู้ผลิตจะก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการผลิต “แอลกอฮอล์ผง” ที่สามารถนำไปละลายน้ำและชงดื่มได้ราวกับกาแฟสำเร็จรูป
เหล้าชนิดผงนี้มีชื่อว่า Palcohol ซึ่งมีการบรรยายสรรพคุณในเว็บไซต์ทางการของผู้ผลิตว่า ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับนักดื่มด้วยน้ำหนักเพียง 1 ออนซ์ของผงแอลกอฮอล์ที่บรรจุอยู่ในซองเล็กๆ สามารถพกในกระเป๋าเสื้อได้ ทำให้การพกไปเพื่อชงดื่มระหว่างกิจกรรมต่างๆ ที่ตามปกติไม่มีการจำหน่ายแอลกอฮอล์เช่นในคอนเสิร์ตหรือระหว่างการชมฟุตบอลเป็นเรื่องง่ายดาย โดยมีรสชาติต่างๆ ให้เลือกมากถึง 7 ชนิด ซึ่งเป็นรสชาติของค็อกเทลต่างๆ ที่มีกลิ่นหอมหวานและรสชาติดี
นอกจากการชงดื่มตามปกติ ผู้ผลิตยังแนะนำให้นักดื่มทดลองใช้ Palcohol ด้วยวิธีใหม่ๆ หนึ่งในนั้นคือการแนะนำให้โรยลงบนอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้กระปรี้กระเปร่า และแม้ว่าบริษัทจะไม่แนะนำให้สูดดม แต่ในเว็บไซต์ก่อนที่จะทำการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นก็ได้มีข้อความในเชิงเชิญชวนให้ลองสูดดมเหล้าผงชนิดนี้ เพราะจะทำให้แอลกอฮอล์ซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายกว่าการผสมน้ำดื่มตามปกติ
Palcohol ได้ยื่นขออนุมัติฉลากกับสำนักงานจัดเก็บภาษีการค้าเหล้าและบุหรี่ (Alcohol and Tobacco Tax and Trade Bureau; TTB) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการผลิตและความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อสุขภาพ แต่มันก็ได้รับการอนุมัติ ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขาจากสังคมถึงความเหมาะสมเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามในเวลาไม่นาน TTB ได้ออกประกาศแถลงว่าการอนุมัติดังกล่าวเป็นความผิดพลาดและเพิกถอนการอนุญาตใช้ฉลากของ Palcohol ไปในที่สุด ทำให้ Palcohol ต้องเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปจนกว่าจะได้รับการอนุมัติอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบริษัท Lipsmark ผู้เป็นเจ้าของผงแอลกอฮอล์ยี่ห้อนี้ยืนยันว่าสินค้าของตนไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ติดขัดเพียงแค่เรื่องของฉลากเท่านั้น ซึ่งบริษัทจะทำการยื่นขออนุมัติจาก TTB ใหม่อีกครั้งเร็วๆ นี้
*******************************************
ที่มาข้อมูล: theverge.com , bevlaw.com , time.com
Author
