ภาพประกอบ: shhhh
Henry Worsley / เฮนรี วอร์สลีย์
หลังรับใช้ชาติมา 36 ปี เฮนรี วอร์สลีย์ ลาออกจากราชการเพื่อมาเป็นนักเดินทางอย่างเต็มตัวเมื่อตุลาคม ปีที่ผ่านมา เป้าหมายของอดีตนายทหารอังกฤษคือการฝ่าอุณหภูมิเยือกแข็งเพียงลำพัง บนเส้นทาง 1,770 กิโลเมตรสู่ขั้วโลก ภายในเวลา 80 วัน โดยไม่มีทีมงานช่วยเหลือคอยติดตาม วอร์สลีย์ให้เหตุผลของการเดินทางครั้งนี้ว่า ทริปสู่ขั้วโลกครั้งที่ผ่านๆ มา เขาเดินทางร่วมกับทีมมาโดยตลอด และครั้งนี้เขาต้องการที่จะตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง
วีรบุรุษในวัยเด็กของเขาคือบรรดาผู้พิชิตขั้วโลก ทั้ง เซอร์เออร์เนสต์ แชคเคิลตัน กัปตันโรเบิร์ต สก็อตต์ และ โรอัลด์ อมุนด์เซน การเดินทางครั้งนี้เป็นการสานต่อภารกิจของ เซอร์แชคเคิลตัน ที่ประสบความล้มเหลวในการพิชิตขั้วโลกใต้ในศตวรรษที่ 19
สถิติการเดินทางพิชิตขั้วโลกใต้ด้วยตัวคนเดียวเกิดขึ้นเมื่อปี 1997 โดย บอร์ก เอาส์ลุนด์ แต่นักเดินทางจากนอร์เวย์อาศัยการส่งสิ่งของจากทางอากาศ ครั้งนี้วอร์สลีย์จะออกเดินทางไปพร้อมกับเลื่อนที่บรรทุกสัมภาระและเครื่องยังชีพ โดยไม่ต้องการตัวช่วย แม้แต่สุนัขลากเลื่อน
ด้วยการสนับสนุนด้านการเงินกว่า 142,000 ดอลลาร์ จากมูลนิธิ Endeavour Fund ซึ่งมีราชวงศ์อังกฤษเป็นผู้อุปถัมภ์ วอร์สลีย์บินออกจากชิลีไปยังแคมป์ Union Glacier ที่แอนตาร์กติก เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน โดยจุดสตาร์ทของเขาคือ ชายฝั่ง Gould Bay ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเริ่มต้นของเซอร์แชคเคิลตันเมื่อ 100 ปีก่อน
ผ่านไป 71 วัน กับเส้นทาง 1,470 กิโลเมตร วอร์สลีย์มีอาการอ่อนแรง ขาดน้ำ ขาดสารอาหาร และเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จนต้องขอความช่วยเหลือ ทั้งที่อยู่ห่างจากจุดหมายที่หิ้งน้ำแข็งรอสส์ หรือ Ross Ice Shelf ไม่ถึง 50 กิโลเมตร
หลังส่งข้อความแจ้งว่า การเดินทางครั้งนี้ล้มเหลว ทีมเคลื่อนย้ายทางอากาศของ Antarctic Logistics & Expeditions ได้พาวอร์สลีย์กลับไปยังแคมป์ที่ Union Glacier ก่อนย้ายไปยังโรงพยาบาล Clinica Magallanes ที่ปุนตาอารีนาส ในชิลี ที่ซึ่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากการทำงานของอวัยวะภายในล้มเหลว