ภาพประกอบ: Shhhh
ผลการเลือกตั้งทั่วไปของสาธารณรัฐเชกเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม ออกมาว่า มหาเศรษฐีอันดับสองของประเทศ อังเดร บาบิส (Andrej Babis) จากพรรคสายกลาง ANO ได้คะแนนอันดับหนึ่ง 29.6 เปอร์เซ็นต์ หรือ 78 จาก 200 ที่นั่งในสภา
ตามมาในอันดับสองคือ Civic Democratic Party (ODS) ได้ 11.3 เปอร์เซ็นต์ หรือ 25 ที่นั่ง, Pirate Party 10.8 เปอร์เซ็นต์ หรือ 22 ที่นั่ง และอันดับสี่ Freedom and Direct Democracy (SPD) 10.6 เปอร์เซ็นต์ หรือ 22 ที่นั่ง
บาบิสกำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีของเชก แต่การจัดตั้งรัฐบาลดูจะไม่ง่าย เพราะอีกสองพรรคใหญ่ส่งสัญญาณปฏิเสธเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะ บาบิส นักธุรกิจผู้หันมาเล่นการเมือง มีข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจของตนเอง จึงเป็นไปได้ว่า เขาจะไปจับมือกับพรรคที่ได้คะแนนเป็นอันดับสี่ SPD
พรรคปีกขวา Freedom and Direct Democracy หรือ SPD ก่อตั้งปี 2015 โดย โทมิโอะ โอคามุระ นักการเมืองวัย 45 บุตรของแม่ชาวเชกและพ่อเชื้อสายญี่ปุ่น-เกาหลี เริ่มทำธุรกิจท่องเที่ยวและอาหารในปี 1994 มีสิ่งพิมพ์ Pivní magazín หรือ Beer Magazine ร่วมเขียนหนังสือดังหลายเล่ม เช่น Tomio Okamura – The Czech Dream ติดอันดับ best seller ในปี 2010 และยังเป็นกรรมการตัดสินรายการทีวีเรียลลิตี้ Dragons’ Den
โอคามุระเข้าสู่สนามการเมืองและได้รับเลือกตั้งในปี 2013 กับพรรค Dawn of Direct Democracy ด้วยนโยบายทางการเมืองขวาจัด โอคามุระมีแนวคิดต่อต้านผู้อพยพแบบสุดขั้ว และสนับสนุนการออกจากสหภาพยุโรป
“สหภาพยุโรปไม่สามารถถูกปฏิรูปได้ มันแค่ออกคำสั่งใส่เรา เราปฏิเสธชาติมวลรวมยุโรปที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย ต้องออกจาก EU ได้แล้ว” โอคามุระให้สัมภาษณ์
หลายปีที่ผ่านมา สาธารณรัฐเชกไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ ในยุโรป ที่มีปัญหาเรื่องผู้อพยพและชาวต่างชาติที่ลี้ภัยเข้ามา โดยเฉพาะโควตาการรับผู้อพยพจาก EU ซึ่งประเทศที่มีประชากร 10.6 ล้านแห่งนี้มีอัตราการว่างงานสูง ชาวเชกจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าผู้อพยพต่างด้าวเหล่านี้แย่งงานพวกเขาไป
ความพีคที่ทำให้โอคามุระถูกจับตามองและเป็นที่จดจำมากไปกว่าความเป็นขวาสุดโต่งคือ ความเกลียดชังมุสลิมรุนแรง ถึงขั้นเคยโพสต์เฟซบุ๊คในปี 2015 เชิญชวนให้ชาวเชกพาหมูและหมาไปเดินเล่นแถวสุเหร่า พื้นที่อื่นๆ ที่มีชาวมุสลิม และเลิกกินเคบับ เพราะเท่ากับว่าเป็นการให้เงินสนับสนุนมุสลิม
“เราต้องการหยุดการกระทำใดๆ ก็ตามที่เป็นอิสลามภิวัฒน์ของสาธารณรัฐเชก เราจะไม่ทนกับการอพยพแล้ว” เขากล่าวหลังได้คะแนนเสียง 10.7 เปอร์เซ็นต์ สูสีกับสองพรรคใหญ่ที่อยู่อันดับสองและสาม
โอคามุระเคยให้สัมภาษณ์กับ Japan Times ว่า เขามีชีวิตวัยเด็กยากลำบาก เพราะเป็นลูกครึ่ง ทำให้ถูกเหยียดทั้งในญี่ปุ่นและเชกโกสโลวาเกีย (ขณะนั้น) สำหรับญี่ปุ่น เขาเป็น ‘ไกจิน’ พวกต่างชาติที่ไม่มีใครยอมรับ ต้องทำงานเก็บขยะและขายป๊อปคอร์นในโรงหนัง
“ผมต่อสู้กับการเหยียดด้วยการพยายามทำให้ดีกว่าพวกที่ถ่มน้ำลายใส่ผม เพราะผมเป็นลูกครึ่งคนขาวกับเอเชีย” แม้ฟังดูแปลก กับสถานะผู้ถูกเหยียดที่สวิงมาเป็นนักเหยียด – โอคามุระบอกว่า ชีวิตช่วงนั้นส่งผลต่อแนวคิดทางการเมืองของเขาอย่างมาก
เรื่องที่ยอกย้อนยังมีอีกคือ ปี 2011 โอคามุระเป็นหนึ่งในผู้ตัดสิน Miss Expat การประกวดนางงามชาวต่างด้าว สองปีถัดมา เขาโพสต์รูปแฟนสาวชาวเชกในชุดมุสลิมเดินเข้ามัสยิดที่ลอนดอน ซึ่งเขาบอกว่า นั่นเป็นประสบการณ์ที่แสนวิเศษของเธอ
อ้างอิงข้อมูลจาก:
reuters.com
nbcnews.com
washingtonpost.com
Author
