Loblaws ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในแคนาดา มีร้านค้ากว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพิ่งปล่อยแคมเปญขายผักผลไม้ไม่สวยในราคาพิเศษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง จากเดิมที่แต่ละปีชาวแคนาดาทิ้งอาหารโดยเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์
แคมเปญนี้มีชื่อว่า No Name Naturally Imperfect โดยเริ่มต้นที่ 2 พืชผลหลักสำหรับทำซุปคือ แอปเปิ้ล มันฝรั่ง รูปร่างไม่สวย ตั้งราคาขายต่อลูกสูงสุดไม่เกิน 30 เซนต์ในร้าน Loblaws ที่เมืองออนทาริโอและควิเบก บริษัทหวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยให้ยอดขายผักผลไม้ขี้เหร่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดดในอนาคต
“เราให้ความสำคัญกับหน้าตามากกว่ารสชาติ” เอียน กอร์ดอน รองประธานอาวุโสของบริษัท Loblaw บอกอีกว่า “เมื่อคุณปอกเปลือกหรือหั่นแอปเปิลคุณก็ไม่รู้แล้วว่ามันเคยบิดเบี้ยวหรือมีตำหนิ”
ข้อมูลจากโครงการสิ่งแวดล้อมขององค์การสหประชาชาติ เผยว่าโดยปกติ เกษตรกรจะคัดผลผลิตที่ไม่สวยและมีตำหนิทิ้งประมาณ 20-40 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่สวยพอจะวางขายในร้าน
แคมเปญนี้ทำให้ผู้ที่รักสุขภาพจ่ายได้ในราคาน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยรัฐบาลแคนาดาประหยัดไปได้ถึง 31,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเดิมเป็นมูลค่าอาหารเหลือทั้งในแต่ละปี ขณะที่ทั้งโลกมีมูลค่าอาหารเหลือทิ้งรวมกันปีละ 400,000 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างอิงข้อมูลจาก U.K.-based Waste & Resources Action Program (WRAP) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในประเทศพัฒนาแล้ว อาหารเหลือทิ้งเกิดขึ้นบ่อยครั้งอันเนื่องมาจากมาตรฐานของผู้ค้าปลีกและผู้บริโภคที่วางไว้สูง บรรดาร้านขายของชำมักยึดติดกับมาตรฐานคุณภาพที่วางไว้อย่างเข้มงวดและให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมากเกินไป จนนำไปสู่การคัดทิ้งผลผลิตที่มีคุณค่า ถ้าเทียบเชิงปริมาณแล้ว แต่ละปีผลผลิตที่ยังไม่เน่าเสียถูกโยนทิ้งในประเทศพัฒนาแล้ว สามารถนำไปเลี้ยงผู้คนอีกซีกโลกที่ยากจนหิวโหยได้ถึง 870 ล้านคน
ประเด็นอาหารเหลือทิ้งยังมีมากกว่านั้น รู้หรือไม่ว่าอาหารเหลือทิ้งส่วนใหญ่ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่หลุมฝังกลบ ขยะประเภทนี้จะเน่าเปื่อยและปล่อยก๊าซมีเทนออกมาซึ่งก่อให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกือบ 30 เท่า
ในสหรัฐอเมริกาอาหารเหลือทิ้งมีเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ขยะอินทรีย์เหล่านี้มีปริมาณมากเป็นอันดับ 2 ในหลุมฝังกลบ ถ้าเปรียบเทียบในระดับโลกแล้วอาหารเหลือทิ้งมีส่วนปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกถึง 7 เปอร์เซ็นต์
และถ้าเปรียบอาหารเหลือทิ้งเป็นประเทศๆ หนึ่ง อาหารเหลือทิ้งก็จะกลายเป็นประเทศอันดับ 3 ของโลกที่สร้างก๊าซเรือนกระจก เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาและจีน
ทั้งนี้ Loblaws ไม่ได้เป็นผู้ค้าปลีกรายแรกที่ออกแคมเปญขายผักผลไม้ขี้เหร่ ปีนเกลียวนโยบายเคร่งคุณภาพของรัฐบาล หากปีที่แล้วสหภาพยุโรปได้ตั้งให้เป็นปีแห่งการต่อต้านอาหารเหลือทิ้ง (the European Year Against Food Waste) และผลักดันให้ซูเปอร์มาร์เก็ตฝรั่งเศส Intermarché ขายผักและผลไม้รูปร่างไม่สวยในราคาถูกกว่ามาตรฐาน ภายใต้ชื่อ แคมเปญ Inglorious Fruits and Vegetables ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมของซูเปอร์มาร์เก็ตดีขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์ และเข้าถึงผู้บริโภค 21 ล้านคนเพียงเดือนแรกของการปล่อยแคมเปญ
*******************************
(ที่มา : thinkprogress.org)