นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของโบลิเวีย เป็นเวลา 7 ปีแล้วที่ อีโว โมราเลส พยายามผลักดันให้มีการบริโภคผลิตภัณฑ์จากต้นโคคา โดยปฏิเสธการนำไปผลิตเป็นโคเคนอย่างในสมัยก่อน แต่อิงประโยชน์ที่คนโบราณได้ใช้เพื่อต่อสู้กับความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
เขาพยายามส่งเสริมให้มีการคิดค้นอาหารเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากต้นโคคา เพื่อขจัดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของพืชชนิดนี้ ในขณะที่สหรัฐก็ยังคิดอยู่เสมอว่าท้ายที่สุดต้นโคคาเหล่านี้ก็จะนำไปผลิตเป็นสารเสพติดอยู่วันยันค่ำ
ความพยายามของ โมราเลส กลับมีอุปสรรค เพราะนอกจากชาโคคาแล้ว คนทั่วไปไม่รู้สึกว่ามีอาหารชนิดใดที่ทำจากต้นโคคาแล้วมีรสชาติดีเลยเนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วโคคาเป็นพืชรสขม ถึงแม้จะมีการแต่งรสเป็นรสหวาน รสข้าวโพด หรือรสชีส ก็ตาม มีเพียงนักเรียนในเขตชาปาเร่ห์ 30,000 คนเท่านั้นที่รับประทานขนมกรุบกรอบซึ่งทำจากโคคาเพราะพวกเขาได้รับแจกจากโรงเรียน
ผู้ปลูกโคคาอย่างโมราเลส มักอวดสรรพคุณในการบรรเทาความเหนื่อยล้าของมัน ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในปี 1975 ก็ระบุว่าใบโคคามีสารอาหารที่มีคุณค่ามากมาย เช่น แคลเซียม วิตามินเอ บี2 และอี แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีสารอัลคาลอยด์ที่เป็นพิษและไม่น่าจะเป็นตัวเลือกอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี
โบลิเวียเป็นแหล่งปลูกโคคาอันดับ 3 ของโลกรองจากเปรูและโคลัมเบีย เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐยังคงยืนยันว่าต้นโคคาเหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกนำไปผลิตเป็นโคเคน
ไฮดี้ ควิสเบิร์ท นักธุรกิจชาวโบลิเวียมองว่าใบโคคาไม่น่านำไปผลิตในรูปแบบใดเลย นอกจากเอาไว้เคี้ยวเล่น ทำชาหรือโคเคน และหากจะทำให้อาหารจากต้นโคคาน่ารับประทานมากขึ้น ก็เพียงแต่…ใส่โคคาให้น้อยลง
************************
(ที่มา : huffingtonpost.com)
Author
