รัฐบาลอิหร่านเตรียมฟ้อง กรณีภาพยนตร์เรื่อง Argo ในข้อหาบิดเบือนและให้ข้อมูลแบบผิดๆ
ภาพยนตร์เรื่อง Argo ที่นำเสนอเหตุการณ์ชาวอิหร่านเข้าโจมตีสถานฑูตสหรัฐในกรุงเตหะราน ปี 1979 โดยเจ้าหน้าที่สถานฑูต 12 คนถูกจับเป็นตัวประกัน 444 วัน แต่เจ้าหน้าที่อีก 6 คนหลบหนีมาอาศัยในบ้านพักเอกอัครราชฑูตแคนาดา ซึ่งการหลบหนีของพวกเขาได้กลายมาเป็นประเด็นหลักของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว
หลังจากคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Argo ก็ถูกทางการอิหร่านปฎิเสธและกล่าวหาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เลือกข้างซีไอเอและต่อต้านอิหร่าน
หนังสือพิมพ์ Shargh daily ของอิหร่าน นำเสนอข่าวว่า ทนายความชาวฝรั่งเศส อิซาแบล กูตอง เปเยอร์ ได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลถึงวิธีการยื่นฟ้องคดีในชั้นศาล
อิซาแบล บอกว่าอีกว่ากำลังจะเริ่มกระบวนการเปิดเผย “คำโกหก” ของ Argo ขณะเดียวกันก็จะกดดันไม่ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกฉายหรือจัดจำหน่ายต่อไป ตลอดจนบังคับให้ผู้สร้างภาพยนตร์ออกมาขอโทษ และ ท้าทายพวกเขาให้สารภาพความจริงที่ไม่ได้นำเสนอออกมา
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะห้ามฉายในอิหร่าน แต่ชาวอิหร่านจำนวนมากได้ชมผ่านดีวีดีเถื่อน และ เริ่มมีการพูดคุยถกเถียงระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันช่วงเวลาปฏิวัติอิสลาม กับคนรุ่นก่อนด้วยความคิดเห็นที่ขัดแย้งแตกต่างกัน
การตัดสินใจยื่นฟ้องเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านวัฒนธรรมอิหร่าน และ นักวิจารณ์ภาพยนตร์ได้ชมภาพยนตร์แบบกลุ่มปิดในโรงภาพยนต์ ณ กรุงเตหะราน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
หลังดูจบ พวกเขาเรียกว่า “การโกหกของฮอลลีวูด” และระดมสมองหาช่องทางกฎหมายเพื่อฟ้อง แต่ถึงอย่างนั้นสื่อต่างๆ ของอิหร่านก็ไม่ได้ลงรายละเอียดชัดเจนว่า โกหกเรื่องใดบ้าง
แต่ในแถลงการณ์ฺของพวกเขา ชี้แจงว่า Argo คือ “การละเมิดวัฒนธรรมสากล” และการให้รางวัลแก่ภาพยนต์ที่ต่อต้านอิหร่าน คือ การโจมตีประเทศชาติและประชาชนด้วยโฆษณาชวนเชื่อ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจุดใดที่บิดเบือนบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือ Argo ทำให้ภาพลักษณ์ของอิหร่านกลายเป็นประเทศที่ “ใช้ความรุนแรงมากเกินไป”
นอกจากนี้ ผู้กำกับยังไม่ได้อ้างอิงหรือใช้จากข้อมูลสารคดีต่างๆ เกี่ยวกับการเข้าบุกสถานฑูตสหรัฐ ที่มีอยู่ไม่น้อย รวมถึงไม่ได้หาเหตุผลของจลาจลดังกล่าวว่าที่มีที่มาจาก ความไม่พอใจในการเข้าแทรกแซงของสหรัฐโดยการส่งเจ้าหน้าที่ซีไอเอ เข้าไปในปี 1953 เพื่อโค่นล้มนายกรัฐมนตรี มูฮัมหมัด มอสซาเดห์ ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน และ ฟื้นฟูราชวงศ์ที่ฝักใฝ่ตะวันตกให้กลับเข้ามาอยู่ในอำนาจ
…………………………………………………………
ที่มา : independent.co.uk