จากผลสำรวจผู้ให้บริการบรอดแบนด์ หรือเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอันดับต้นๆ โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) เมื่อเดือนกันยายน 2012 พบว่าความเร็วที่ผู้ให้บริการโฆษณาเอาไว้ กับตอนที่ผู้ใช้ได้รับจริงๆ ค่อนข้างห่างกัน โดยความเร็วไม่เท่ากับที่แจ้งไว้ในโฆษณา
โดยเว็บไซต์ Netflix (เว็บไซต์เคเบิลทีวีออนไลน์ในสหรัฐ) ให้ข้อมูลต่อสาธารณะว่า การให้บริการดูหนังผ่านเว็บไซต์ของตน ผู้ชมในเนเธอร์แลนด์จะสามารถชมได้ในคุณภาพที่ดีที่สุด โดยความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 3.25 เมกะบิตต่อวินาที ขณะที่ชาวเม็กซิโกสามารถรับชมได้ที่ความเร็วเฉลี่ย 1.76 เมกะบิตต่อวินาที
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะนักกฎหมายหรือที่ปรึกษาด้านกฎหมายประจำบริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมมักมีเครื่องหมายดอกจัน (*) ห้อยท้ายไว้หลังตัวเลขความเร็ว ตามด้วยคำอธิบายในส่วนท้ายของโฆษณาชิ้นนั้นๆ ว่าระดับความเร็วเมื่อใช้งานจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ในสหรัฐ คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติ (The Federal Communications Commission: FCC) ให้ข้อมูลว่าผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศส่วนใหญ่ ให้บริการผู้บริโภคด้วยความเร็วร้อยละ 96 จากระดับความเร็วที่โฆษณาเอาไว้ ในช่วงที่มีการใช้งานสูงสุด
คำถามที่เกิดขึ้นคือ ความเร็วในการส่งข้อมูลของอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการอยู่ที่เท่าไหร่ โดยมากมักจะไม่ตรงกับตัวเลขที่กล่าวอ้างไว้ ในสหรัฐ ศาลรัฐบาลกลางยังไม่มีคำสั่งเป็นทางการเกี่ยวกับประเด็นเครือข่ายที่เป็นกลาง (Net Neutrality) หรือความเป็นกลางในการให้บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อไม่ให้อำนาจแก่ผู้ให้บริการในการจำแนกเนื้อหาใดๆ ทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางในการส่งข้อมูลเท่านั้น
หากบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและนักเคลื่อนไหวด้านเสรีภาพอินเทอร์เน็ตไม่สามารถทำให้รัฐบาลเชื่อได้ว่าหลักการความเป็นกลางนี้จะเป็นทางออกของการใช้อินเทอร์เน็ต ในอนาคตอันใกล้ นอกจากค่าบริการอินเทอร์เน็ตรายเดือน ซึ่งเป็นค่าบริการสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายที่ผู้บริโภคต้องเสียอยู่เป็นประจำแล้ว อาจมีใบเสร็จค่าบริการสตรีมต่างๆ ของ Netflix รวมทั้งเคเบิลทีวีและเว็บไซต์ดูหนังออนไลน์ต่างๆ ในฐานะผู้ให้บริการด้านเนื้อหา ตามมาเรียกเก็บเงินถึงบ้านอย่างแน่นอน
ที่มา: qz.com /
oecd-ilibrary.org