เด็กนักเรียนกับรถโรงเรียนดูจะเป็นของคู่กันกับประเทศสหรัฐอเมริกา ภาพของรถโรงเรียนคันสีเหลืองแถบดำขนาดยาวที่บรรจุเด็กๆ ไว้ภายในเพื่อพาไปส่งยังที่หมายในทุกๆ เช้าเป็นที่ชินตาของคนทั่วไป แต่ท่ามกลางขนาดประเทศที่กว้างใหญ่และมีจำนวนเด็กนักเรียนมากมาย ยังมีเมืองเล็กๆ ที่ไม่เห็นความจำเป็นของรถโรงเรียน เพราะเด็กๆ ของเมืองนี้เดินไปโรงเรียนเองทุกวัน
เลควู้ด คือเมืองเล็กๆ ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีขนาดพื้นที่เพียง 14 ตารางกิโลเมตรกับประชากรกว่า 51,000 คน
ด้วยจำนวนของประชากรและพื้นที่ในปริมาณดังกล่าว ทำให้ความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่ของเลควู้ดติดอันดับในรายชื่อเมืองที่จำนวนประชากรหนาแน่นที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ความหนาแน่นนี้เองที่ทำให้การเดินทางไปโรงเรียนของเด็กนักเรียนในเมืองด้วยการเดินเท้าหรือขี่จักรยานไปเองเป็นเรื่องง่ายดาย ด้วยการวางตำแหน่งของโรงเรียนให้อยู่บริเวณใจกลางของชุมชน ทำให้การเดินทางจากบ้านมาโรงเรียนของเด็กๆ ใช้เวลาไม่นานกับระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น การวางวิสัยทัศน์ของเมืองให้การเดินเป็นสิ่งที่ “ใครๆ ก็ทำกัน” ทำให้ในปัจจุบัน รถโรงเรียนกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับเด็กนักเรียนกว่า 5,800 คนในโรงเรียนจำนวน 10 แห่งของเลควู้ดอีกต่อไป
ประวัติศาสตร์ของเลควู้ดดูเหมือนจะตั้งใจวางไว้ให้เป็นเมืองแห่งการเดินมาตั้งแต่อดีต ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถรางถูกนำมาใช้ในเมืองตั้งแต่ปี 1911 ก่อนหน้าที่รถยนต์ส่วนบุคคลจะได้รับความนิยม การออกแบบถนนและทางเดินทำให้การเดินทางด้วยการเดินของชาวเลควู้ดเป็นไปอย่างสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้ถูกส่งต่อมายังวิธีการออกแบบโรงเรียนในเมืองด้วยเช่นกัน โดยอาคารเรียนทุกแห่งในเขตโรงเรียนของเมืองจะสร้างให้มีหลายชั้นในอาคารเดียว เพื่อใช้พื้นที่ให้น้อยที่สุดและสามารถสร้างให้ใกล้กับบ้านเรือนและชุมชนได้
การให้ความสำคัญกับนโยบายปลอดรถโรงเรียนในเมืองทำให้เลควู้ดสามารถนำงบประมาณกว่า 1 ล้านดอลล่าร์ที่เคยต้องใช้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของรถโรงเรียนมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น นอกจากคุณภาพการเรียนการสอนจะดีขึ้นแล้ว สุขภาพกายและใจของเด็กๆ ยังดีขึ้นอีกด้วย เพราะการเดินหรือขี่จักรยานมาเรียนทุกวันทำให้เด็กๆ กระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า และมีเวลาเดินคุยเล่นกับเพื่อนๆ ก่อนจะเข้าชั้นเรียน มากกว่าจะนั่งหลับบนรถโรงเรียนเพื่อฆ่าเวลาอย่างที่เคยเป็นมา
************************************
ที่มาข้อมูล: theatlanticcities.com / usa.streetsblog.org