งานชิ้นท้ายๆ ของ บารัก โอบามา ผู้กำลังจะกลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ คือการลดโทษ เชลซี แมนนิง ตัวละครสำคัญ ‘whistleblower’ ผู้เปิดโปงข้อมูลลับของสหรัฐ ในความผิดฐานปล่อยเอกสาร Wikileaks ในปี 2010
โทษเดิมของอดีตทหารวัย 29 ปี เชลซี หรือ ‘แบรดลีย์ แมนนิง’ คือเป็นกบฏ ทรยศชาติ 22 ข้อหา ต้องโทษจำคุก 35 ปี เมื่อปี 2013 จากความผิดในการแฮ็คข้อมูลลับโทรเลข Wikileaks ของสหรัฐ เปิดโปงเอกสารและวิดีโอทางการทูตและการทหารกว่า 700,000 ชิ้น ซึ่งมีข้อมูลลับระหว่างประเทศ ภารกิจลับต่างๆ เช่น การสังหารพลเรือนในแบกแดด การทรมานนักโทษโดยไม่ตั้งข้อหาที่เรือนจำกัวตานาโม ออกมาให้โลกได้รับรู้
ระหว่างถูกจำคุก แบรดลีย์ อดอาหารเนื่องจากไม่พอในในเพศสภาพ จนได้รับการแปลงเพศเป็น เชลซี แต่ยังต้องเป็นหญิงข้ามเพศ (trans-woman) ในเรือนจำทหารชายที่ฟอร์ทลีเวนเวิร์ธ (Fort Leavenworth) แคนซัส สถานการณ์บีบคั้นเช่นนี้ทำให้ปีที่แล้วเธอพยายามฆ่าตัวตายถึงสองครั้ง
เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เคยทวีตถึงโอบามาให้ปล่อยตัว เชลซี แมนนิง ออกจากความทุกข์ทรมานในเรือนจำ ก่อนหมดวาระประธานาธิบดีว่า
“ท่านประธานาธิบดี หากท่านจะให้อภัยโทษเพียงสักหนึ่งกรณีก่อนจะพ้นตำแหน่งในทำเนียบขาว ได้โปรด: ปล่อย เชลซี แมนนิง ท่านเป็นผู้เดียวที่จะสามารถช่วยชีวิตเธอได้”
ล่าสุด อังคารที่ 17 มกราคม ประธานาธิบดีโอบามา ได้ลดหย่อนโทษเชลซี ส่งผลให้เธอจะได้รับอิสรภาพในเดือนพฤษภาคมปีนี้ แทนที่จะเป็น 17 พฤษภาคม 2045
ภารกิจของโอบามาครั้งนี้ส่งผลให้นักโทษ 209 รายได้รับการลดหย่อนโทษ และอีก 64 รายได้รับอภัยโทษ ซึ่งรวมแล้ว ตลอดการทำงาน โอบามาเคยลดโทษให้กับผู้ต้องขัง 1,385 ราย อภัยโทษ 212 ราย มากกว่าประธานาธิบดีในอดีต 12 คนรวมกัน
ในรายชื่อดังกล่าวไม่มีชื่อของเจ้าพ่อ Wikileaks จูเลียน อัสซานจ์ ที่ลี้ภัยอยู่ในสถานทูตเอกวาดอร์ในอังกฤษ และ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงความลับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Agency: NSA)
อัสซานจ์ทวีตถึงการอภัยโทษเชลซีของโอบามาว่า “ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนและเห็นใจ เชลซี แมนนิง ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นนี้ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้”
อ้างอิงข้อมูลจาก:
theguardian.com
bbc.com
nytimes.com