วันที่ 27 มกราคม 2566 สำนักข่าว The Economist รายงานว่า รัฐบาลของประเทศสเปนกำลังปรึกษาหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านความรุนแรงในครอบครัว หลังอัตราการเกิดคดี Femicide เพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ ลำพังเดือนมกราคมปีนี้ เกิดคดีฆาตกรรมผู้หญิงถึง 6 ราย และเด็กหญิงอีก 1 ราย
Femicide คือการเจตนาฆ่าเพียงเพราะเหยื่อเป็นเพศหญิง และมักเกิดขึ้นจากการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างคนรักหรือคนใกล้ชิด ปัจจุบัน คดี Femicide เป็นปัญหาใหญ่จนทางการสเปนต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากเหยื่อ 7 ราย ในเดือนมกราคมปีนี้ ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีเหยื่อถูกฆาตกรรมถึง 11 ราย ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนเริ่มเก็บรวบรวมสถิติการฆาตกรรมผู้หญิง ตั้งแต่ปี 2546 พบว่า มีเหยื่อจากคดี Femicide ที่ผู้ก่อเหตุคือคนรักหรืออดีตคนรัก ถึง 1,188 รายเฉลี่ย 59 รายต่อปี
ในปัจจุบันหลายประเทศเริ่มถกเถียงว่า จะเพิ่มอัตราโทษของคดี Femicide ให้สูงกว่าคดีฆาตกรรมทั่วไป ตัวอย่างเช่น รัฐนวยโบเลออน (Nuevo León) ทางตอนเหนือของเม็กซิโก กำหนดอัตราโทษของคดี Femicide สูงกว่าคดีฆาตกรรมทั่วไป กล่าวคือ ผู้กระทำผิดจะต้องโทษจำคุก 70 ปี ซึ่งมากกว่าคดีฆาตกรรมทั่วไปถึง 30 ปี นอกจากนี้ ศาลเม็กซิโกยังไม่เรียกร้องให้อัยการต้องหาหลักฐานพิสูจน์ว่า จำเลยมีเจตนาที่จะฆ่าเหยื่อหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีสามีซ้อมภรรยาจนเสียชีวิต แล้วสามารถหาช่องโหว่หลุดรอดจากข้อหาได้โดยง่าย
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการกำหนดโทษทางกฎหมายในคดี Femicide เป็นข้อถกเถียงที่ยังไม่มีข้อสรุป นักกฎหมายจำนวนหนึ่งทักท้วงว่า การเพิ่มโทษของคดีฆาตกรรมภรรยาโดยสามี แต่ไม่เพิ่มโทษคดีฆาตกรรมสามีโดยภรรยา เป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล ขณะที่นักกฎหมายอีกฝั่งมองว่า การแยกอัตราโทษของคดี Femicide ออกจากคดีฆาตกรรมปกติ เป็นเรื่องเหมาะสมแล้ว
หลังการประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญครั้งนี้ รัฐบาลสเปนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ศาลและอัยการผลักดันการใช้กำไลไฟฟ้า (electronic bracelet) เพื่อแจ้งเตือนเหยื่อ เมื่อผู้มีประวัติใช้ความรุนแรงในครอบครัวเข้าใกล้ ตลอดจนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งเตือนผู้หญิงในกรณีที่คู่รักมีประวัติใช้ความรุนแรงมาก่อนได้
ที่มา:
- Fighting femicides in Spain
- Why Latin America treats “femicides” differently from other murders
- Spain calls second emergency meeting over murders of six more women