หลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2010 จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200,000 ราย ต่อมา 11 ปีให้หลัง ชาวเฮติต้องประสบกับปัญหาภัยพิบัติที่โหดร้ายนี้อีกครั้ง
จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ทางตะวันตกของประเทศ ในช่วงเช้าวันที่ 14 สิงหาคม 2021 ตามเวลาท้องถิ่น ได้สร้างความเสียหายต่ออาคารและบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง จนนายกรัฐมนตรีของเฮติ อารีแยล อองรี (Ariel Henry) ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐ (USGS) รายงานว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองแซงต์-หลุยส์ดูซูด ประมาณ 12 กิโลเมตร รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 125 กิโลเมตร และยังรู้สึกไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างโดมินิกันและคิวบา
USGS ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างน้อย 6 ครั้ง และ 1 ใน 6 ครั้ง สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 5.1 แมกนิจูด เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอย่างน้อย 300 คน และบาดเจ็บมากกว่า 1,800 คน
ต่อมาในวันที่ 15 สิงหาคม สำนักงานคุ้มครองพลเรือนเฮติ ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,297 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,800 คน อีกทั้งบ้านเรือนกว่า 7,000 หลังเสียหาย และอีก 5,000 หลังในพื้นที่ใกล้เคียงก็เสียหายด้วยเช่นกัน
ล่าสุดวันที่ 17 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,941 ราย และมีประชาชนส่งเสียงร้องขออาหาร ที่พักพิง และการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก
สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกเมื่อพายุโซนร้อน ‘เกรซ’ ทำให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่ม เป็นเหตุให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดและขาดที่หลบภัย ทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อการกู้ภัยอีกด้วย
จากภัยพิบัติทั้งสองที่เกิดพร้อมกันนี้ทำให้โรงพยาบาลใหญ่หลายแห่งไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับผู้บาดเจ็บ อีกทั้งยังขาดกำลังแพทย์ในการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยอีกเป็นจำนวนมาก
UNICEF หรือ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ คาดการณ์ว่า จะมีจำนวนประชากรราว 1.2 ล้านคน รวมถึงเด็กราว 540,000 คน ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
บรูโน เมส (Bruno Maes) ตัวแทนยูนิเซฟ ประเทศเฮติ กล่าวว่า “ครอบครัวชาวเฮติจำนวนนับไม่ถ้วนต้องสูญเสียทุกสิ่งจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ และตอนนี้พวกเขายังต้องอยู่อาศัยโดยเท้าแช่น้ำจากเหตุการณ์น้ำท่วมอีก
“ตอนนี้ เด็กเฮติประมาณครึ่งล้านคน มีข้อจำกัดด้านที่พักอาศัย น้ำสะอาด การดูแลสุขภาพ และโภชนาการ หรือบางคนก็ไม่มีสิ่งพวกนี้เลย”
อย่างไรก็ตาม องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้จัดสรรเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวน 8 ล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐอเมริกาผู้บริจาคหลัก ได้ส่งเสบียง ทีมค้นหาและกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ เช่นเดียวกับประเทศในลาตินอเมริกา เช่น เวเนซุเอลา ชิลี เม็กซิโก ปานามา โคลอมเบีย และสาธารณรัฐโดมินิกันที่อยู่ใกล้เคียง ก็ได้ส่งอาหาร ยารักษาโรค และเวชภัณฑ์ เข้าช่วยเหลือเช่นกัน
จากการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ของเฮติเกิดขึ้นเพียง 1 เดือน หลังจากที่ประเทศประสบความปั่นป่วนทางการเมือง จากการลอบสังหาร ประธานาธิบดีฌอเวอแนล มออีซ (Jovenel Moise) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2021
เจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวต่อกระบวนการทางการเมืองของเฮติ และสหรัฐไม่มีแผนที่จะส่งกำลังทหารไปประจำการ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอารีแยล อองรี ได้สาบานตนหลังจากการลอบสังหารมออีซว่า เขาจะจ่ายเงินในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ดีกว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2010 และเขาได้กล่าวกับนักข่าวรอยเตอร์สอีกว่า “แผ่นดินไหวถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเราในช่วงกลางฤดูเฮอร์ริเคน”
โดยรัฐบาลจะไม่ทำซ้ำสิ่งเดียวกันกับที่ทำในปี 2010 หรือเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 11 ปีก่อน
ที่มา:
- https://www.bbc.com/thai/international-58219913
- https://www.reuters.com/world/americas/hopes-quake-survivors-dwindle-storm-lashes-haiti-2021-08-17/
- https://www.nytimes.com/2021/08/17/world/americas/haiti-hurricane-storm
- https://www.nytimes.com/2021/08/14/world/americas/haiti-earthquake-what-to-know
- https://www.thairath.co.th/news/foreign/2169202
- https://flic.kr/p/bmhJjq