ตามเทรนด์ชาติตะวันตก โดยเฉพาะยุโรป ผลการเลือกตั้งหลายครั้งแสดงให้เห็นว่า การเมืองแบบเก่า ทั้งเสรีนิยม ซ้ายและซ้ายกลาง กำลังหมดความนิยมด้วยหลายเหตุผล ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ผู้อพยพ และความเชื่อมั่นในการอยู่ร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) พร้อมๆ กับกระแสขาขึ้นของพรรคอนุรักษนิยมปีกขวาที่คนส่วนใหญ่ในยุโรปเชื่อว่าเป็นความหวังใหม่ และกรีซคือชาติล่าสุดที่ยืนยันว่า ทิศทางการเมืองฟากตะวันตกยังคงดำเนินไปในทิศทางนี้
การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีกรีซเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมาจบลงด้วยชัยชนะท่วมท้นของตัวแทนพรรคขวากลาง New Democracy คิเรียกอส มิตโซตากิส (Kyriakos Mitsotakis) โดยว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ประกาศทางโทรทัศน์ว่า “วงจรความเจ็บปวดสิ้นสุดแล้ว” และให้คำมั่นว่า กรีซจะกลับมายืนได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้คือความพ่ายแพ้ยับเยินของพรรคฝ่ายซ้าย Syriza ของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อเล็กซิส ซีปราส (Alexis Tsipras) และนับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจาก Syriza ต้องปราชัยในการเลือกตั้งยุโรปและการเลือกตั้งท้องถิ่น
ตลอดเกือบ 5 ปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซีปราส ผู้นำหนุ่มวัย 44 ปี ต้องกู้เงินเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้สาธารณะของประเทศที่ตกต่ำยาวนาน รัฐบาลดำเนินนโยบายรัดเข็มขัดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งขึ้นภาษีและลดรายจ่ายภาครัฐ วิกฤติระดับชาติทำให้อัตราการว่างงานและความยากจนพุ่งสูงสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจดิ่งลงเหว แม้กรีซจะเริ่มฟื้นตัว แต่ผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นแล้วว่า ชาวกรีซไม่ซื้อนโยบายแบบเก่าของซีปราส
อีกเหตุผลของความพ่ายแพ้คือ พรรค Syriza ไม่พยายามต่อสู้ต่อสู้กับเจ้าหนี้ และยืนยันดำเนินมาตรการรัดเข็ดขัดต่อไป แม้แต่ ยานิส วารูฟากิส (Yanis Varoufakis) ที่ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และออกมาตั้งพรรคใหม่ในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังกล่าวว่า Syriza ต้องรับบทเรียนซึ่งเป็นเหมือนการสั่งสอนจากชาวกรีซว่าควรทบทวนจุดยืนทางการเมืองอย่างไรในอนาคต
นอกจากเรื่องเศรษฐกิจ ซีปราสได้รับการยกย่องจากชาติพันธมิตรในการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อแก้ไขข้อพิพาทยาวนานกว่า 3 ทศวรรษกับมาซิโดเนีย ทำให้มาเซโดเนียเปลี่ยนชื่อเป็น ‘สาธารณรัฐนอร์ธมาซิโดเนีย’ แต่ผลงานที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องบวกในสายตาคนภายนอกกลับสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวกรีซจำนวนมากที่ไม่ยอมรับความชอบธรรมของประเทศนอร์ธมาซิโดเนีย
ผลการนับคะแนน 91 เปอร์เซ็นต์จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 9,903,864 คนออกมาว่า พรรค New Democracy ได้ไป 39.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วน Syriza ได้ 31.5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่มีความคลาดเคลื่อนมากนัก New Democracy จะได้ที่นั่งในสภาฯมากถึง 158 ที่นั่งจากทั้งหมด 300 ที่นั่ง ขณะที่ Syriza ได้เพียง 86 ที่นั่งเท่านั้น
ย้อนไปครั้งหลังสุดที่ New Democracy อยู่ในอำนาจคือปี 2014 โดยร่วมรัฐบาลกับพรรคสังคมนิยม ก่อนพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งให้กับ Syriza ในปี 2015 โดยครั้งนั้น New Democracy ได้ที่นั่งในสภาฯ 76 ที่นั่ง ขณะที่ Syriza ได้ 149 ที่นั่ง
คิเรียกอส มิตโซตากิส อดีตนักเรียนฮาร์วาร์ด วัย 51 ปี มาจากตระกูลการเมืองใหญ่ แม้จะพยายามลบภาพอิทธิพลครอบครัว แต่โดยสายเลือดแล้ว เขาเป็นลูกชายของอดีตนายกรัฐมนตรี คอนสแตนตินอส มิตโซตากีส (Konstantinos Mitsotakis) เป็นน้องชายของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอดีตผู้ว่าฯ เอเธนส์ ดอรา บาโกยานนิส (Dora Bakoyannis) รวมถึงเป็นอาของ คอสตาส บาโกยานนิส (Kostas Bakoyannis) ผู้ว่าฯเอเธนส์คนปัจจุบัน
มิตโซตากิสให้คำมั่นจะทำนโยบายของ New Democracy เพื่อฟื้นฟูประเทศ เช่น ลดภาษี ดึงดูดการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนการสร้างงาน ปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัย
“สังคมต้องการให้เราร่วมกันเดินไปข้างหน้า ผมต้องการความเติบโต การจ้างงาน ความเชื่อมั่น เพื่อเป็นเป้าหมายของกรีซ อย่างที่ควรได้รับ ให้แข็งแกร่งได้อีกครั้ง ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีของชาวกรีซทุกคน ผมจะทำงานเพื่อเพื่อนร่วมชาติที่ไม่ได้สนับสนุนเรา เรามีจำนวนน้อยเกินกว่าจะแบ่งแยกกัน และเรามีหลายอย่างต้องทำร่วมกัน จากวันนี้ การต่อสู้ที่ยากเย็นทว่างดงามรอเราอยู่ข้างหน้าแล้ว”
ปัญหาใหญ่คือการว่างงาน มิตโซตากิสตั้งเป้าจะเปลี่ยนประเทศสำหรับคนรุ่นใหม่หลายแสนคนที่ต้องถูกทิ้งให้ว่างงานตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนต้องเดินทางออกนอกประเทศ “ผมขอให้สายตาและหัวใจของคุณมุ่งกลับมาที่กรีซ หลังจากวันนี้ เราจะทำงานเพื่อเปลี่ยนประเทศที่พยายามบีบคุณออกไปนี้เอง”
ในพรรค New Democracy สมาชิกสภาฯ จำนวนมากเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่เพิ่งลงสนามสมัยแรก แต่ที่ปรึกษาอาวุโสของมิตโซตากิสกล่าวรับรองว่า “ผู้คนหน้าใหม่เหล่านี้คือใบหน้าของการเริ่มต้นใหม่” และ “สองปีที่ผ่านมา คิเรียกอสใช้เวลาทุกสัปดาห์ไปทั่วประเทศเพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน เขารู้ว่าประชาชนเป็นอย่างไร”
ทันทีที่ผลเลือกตั้งประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ มิตโซตากิสจะเข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซคนใหม่ในวันจันทร์
ด้านผู้แพ้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ซีปราสกล่าวว่า “ประชาชนได้เลือกทางของพวกเขา เราเคารพผลจากเสียงส่วนใหญ่ที่ออกมา” และหลังจากนี้พรรคของเขาจะยังต้องต่อสู้เพื่อสิทธิของแรงงานในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มที่
| อ้างอิงข้อมูลจาก: theguardian.com apnews.com aljazeera.com |
Author
Illustrator
