การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อพิจารณากฎหมาย 2 ฉบับ คือ หนึ่ง – ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 (วาระที่ 1) และ สอง – พระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562
ล่าสุดเวลา 10.30 น. ผลการลงมติ พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ ผ่านการลงมติของสภาแล้ว โดยมีผู้เห็นด้วย 366 เสียง ไม่เห็นด้วย 70 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง
สำหรับพรรคอนาคตใหม่ซึ่งมีมติไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.ก. ฉบับดังกล่าวนั้น เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นเหตุเร่งด่วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การลงมติดังกล่าวเป็นการปกป้องรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขไว้ พ.ร.ก. ฉบับนี้ตราขึ้นมาโดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 ตนในฐานะผู้แทนของประชาชน จึงไม่สามารถลงมติอนุมัติ พ.ร.ก. ฉบับนี้ได้
“นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะต้องไม่ลืมว่า เรามีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เขาไม่ใช่ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน การใช้อำนาจของคณะรัฐมนตรีจึงต้องเคารพรัฐธรรมนูญ จะต้องระมัดระวังและรอบคอบกว่าเดิม มิใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ
“ผมเห็นว่า การตราพระราชกำหนดนี้ เป็นข้อยกเว้นที่รัฐธรรมนูญยอมให้อำนาจแก่คณะรัฐมนตรี จึงต้องทำอย่างจำกัดโดยเคร่งครัดตามมาตรา 172 กำหนด พลเอกประยุทธ์จะเคยชิน จะใช้ช่องทางมาตรา 172 เสมือนกับมีอำนาจมาตรา 44 ไม่ได้”