พวกนกอพยพกันแล้ว แต่ฉันยังอยู่ที่นี่
ใบยางเปลี่ยนเป็นสีแดง ในอีกไม่ช้า ภูเขาจะถูกปัดบรัชออนบนแก้ม
ก่อนที่มือของฤดูร้อนจะลูบลงอย่างแห้งผาก เปลี่ยนมันเป็นสีน้ำตาล
ใบไม้สีเขียวจะพากันลงไปซ่อนอยู่ตามข้อ ลงไปในราก
หลบอยู่ใต้ผืนดินอันชื้นฉ่ำ
นกนั้นมีปีกคู่หนึ่ง พร้อมกระดูกกลวงเบา
ความอดทนหล่อร่างกายของฉันจนหนัก
ฉันจำศีลอยู่บนผืนดิน ก้าวสั้นๆ ย่ำภาวนาถึงเธอ
อีกไม่นาน เด็กๆ จะชักขบวนว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้า
ลมที่เต็มด้วยเสียงใบไม้แห้งกรอบแกรบ โชยชื่นกระซิบพร่า
จะโหมกระพือ ฟาดพายุลงมา
เมื่อฤดูร้อนสุกงอมด้วยดวงอาทิตย์ ภูเขาก็ลุกไหม้
พวกที่มีปีกจะบินหนีไปไกล
แต่ฉันจะยังย่ำอยู่ ภาวนาเงียบๆ ภายใต้ผืนหม่นควันหมอก
พวกชาวนายั้งรอ ชาวไร่บนภูจะรั้งรอ
ซังข้าวยังไม่ถูกเผาเป็นเถ้า
หญ้าคาที่แหลมสูง รากของมันตวัดงอกออกเป็นกรงเล็บเหนียวๆ
จะถูกยาพิษราดซึม ตายดับลงชั่วขณะ
ถนนที่เงียบเชียบและสะอาดไกลโพ้นของเธอ ลอยหายไปในชนบท
วันใหม่ๆ ที่หอบกลิ่นไอทะเลมาทุกเช้า
เหยี่ยวบางตัวจะบินไปถึงที่นั่น
ฝูงปลาจะลอยรื่นตามกระแสน้ำอุ่น
เรือเดินสมุทรบางลำจะจอดเทียบท่ายังเมืองของเธอ
แต่ฉันจะยังเดินย่ำอยู่
ในสวนเล็กๆ ที่เธอคือกุหลาบของฉัน
ในสวนแห่งความคิดคะนึง…
ฉันคือกุหลาบของเธอ
เธอคือกุหลาบของฉัน
รวิวาร