เรื่อง: ปริชาติ หาญตนศิริสกุล
ภาพ: อนุช ยนตมุติ
เสียงสังกะสีดังกรอบแกรบ
ต้นไม้ที่ปลูกเป็นแนวกำแพงถูกทึ้งถอนโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่โยธาฯ กทม.
เขารื้อออกไปแล้วหมดแล้ว รื้อออกไปแล้ว สิ่งที่เป็นเสมือน ‘ทุกอย่าง’
ฝูงกำลังแตกรัง และข้างในใจฉันกำลังสั่นคลอน…
โปรดคิดว่านี่เป็นเหตุการณ์สมมุติ
(เพราะเราอยู่ในโลกที่ประชาธิปไตยเป็นสิ่งสมมุติ)
เพราะฉันก็คิด
ว่าเรื่องนี้เป็นเพียงฝันร้ายขณะลืมตา.
1
ผมนอนไม่หลับ…
มีชีวิตอยู่ในโลกหวาดระแวง
ทุกอย่างเป็นของประดิษฐ์
เว้นเพียงแต่คุณจะโกหกไม่แนบเนียน
ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นเวรยาม ทว่าผมนอนไม่หลับ
ไม่ใช่เพราะโกหกใครมา (หรือโกหกว่านอนไม่หลับ)
แต่เพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะโกหกผมอีกครั้งรึเปล่า
ผมหวัง
ให้ฝืนไฟที่เราระวังกลายเป็นเรื่องโกหก
นี่คือคำสารภาพจากนักโกหกอันดับหนึ่งที่นอนไม่หลับมาหลายค่ำคืน.
2
“เข้าไปไม่ได้ ‘เขา’ นั่งขวางอยู่ ก็สงสารนะแต่ทำไงได้ เราทำตามหน้าที่ของเรา”
คนที่ใส่เสื้อกาวน์สีแดงกลุ่มหนึ่งกำลังคุยกัน
ฉันกำลังโต้เถียงกับตัวเอง ว่า ‘เขา’ ผิดหรือไม่
ในแง่กฎหมาย คำตัดสินของศาลนับเป็นที่สุด
เขาควรจะไปเสียตั้งแต่ยี่สิบปีก่อนแล้ว
แต่ในเบื้องลึก จิตใจมันกลับอาลัย ‘รากเหง้า’
ฉันเห็นการรื้อทุบอาคารบ้านช่องเป็นสิบเป็นร้อยในชีวิต
แต่ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกรู้สาเท่าครั้งนี้
ความอาวรณ์ในใจมันสารภาพต่อความเงียบด้วยสัตย์จริงว่ามันกลัว
กลัวว่า ‘ใคร’ จะพังทลายบ้านในใจของมัน.
3
‘ฉันไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง’ ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ
แต่ไม่ใช่คนโง่ ฉันโต้แย้งกับตัวเองเช่นนั้นเสมอมา
แม้ไม่ฉลาด แต่ไม่ชอบให้ใครมองฉันเป็นไอ้งั่ง
ฉันจะไม่ร้องไห้ เมื่อผู้ใหญ่ตอบเราไม่ได้
ว่าทำยังไงเราถึงจะเรียนต่อโรงเรียนแถวบ้านได้
เพราะเขาโอนชื่อเราเข้าทะเบียนบ้านไม่ได้
เป็นเรื่องตลกที่เขาบอกว่า “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”
แต่เขากลับลดพื้นที่การเรียนรู้
ฉันไม่ใช่เด็กเรียนเก่งแต่ฉันไม่ใช่คนโง่
ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ฉันก็ยังอยากเข้าโรงเรียนที่ฉันหวัง.
4
คนไทยชอบเล่นหวย แต่ ‘เลขเด็ด’ ครั้งนี้ไม่มีใครถูกใจ
เลขเด็ดจากคำแถลงของรองผู้ว่า กทม.
ที่แถลงการณ์รื้อถอนวันแรกจาก 8 เป็น 9
เลขเด็ดจากบ้านเลขที่ 203 ที่ไม่ได้อยู่ในแผนผังแต่เขาก็รื้อทิ้ง
คนไทยชอบเลขสวยๆ
เราเรียกสถานการณ์แบบนี้ว่า
‘หวยจะไปตกอยู่ที่ใคร’
บางครั้ง
เงินรางวัลก็ไม่มีค่าอะไรเลยในเวลานี้
แม้ฉันเป็นคนชอบหวยแต่ก็ซื้อเลขนี้ไม่ลง.