ข้อมูลจากเว็บไซต์เกษตรไพรซ์ (kasetprice.com) พบว่าราคาเนื้อหมูที่ลดลงมาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 กำลังค่อยๆ ขยับราคาขึ้นอีกครั้ง จนเริ่มเข้าใกล้ราคาเดิมที่เกินจะเอื้อม
หากมองย้อนกลับไป ณ วันที่ 16 มกราคม 2565 ราคาเนื้อหมูหลายชนิดดีดตัวสูงขึ้น เช่น หมูบด ราคากิโลกรัมละ 182.50 บาท สันนอก ราคากิโลกรัมละ 220 บาท สันใน ราคากิโลกรัมละ 210 บาท และหมูสามชั้น ราคากิโลกรัมละ 260 บาท
ถัดมาราคาจึงเริ่มตกในวันที่ 2 มีนาคม 2565 โดยพบว่า หมูบด ราคากิโลกรัมละ 130 บาท สันนอก ราคากิโลกรัมละ 155 บาท สันใน ราคากิโลกรัมละ 149 บาท และหมูสามชั้น ราคากิโลกรัมละ 178 บาท เหตุเพราะการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ไม่ได้รับการจัดการที่ดีพอ ส่งผลให้ผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงปศุสัตว์และหลายภาคส่วนในธุรกิจอาหารได้รับความเสียหายอย่างมาก จากนั้นเดือนมีนาคม ราคาเนื้อหมูจึงค่อยๆ ถีบตัวขึ้นตามลำดับเพราะเนื้อหมูในตลาดมีน้อย แต่อุปสงค์สูง
กระทั่งเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ราคาหมูในตลาดพุ่งทะยานเข้าใกล้จุดเดิมอีกครั้ง โดยหมูบด ราคากิโลกรัมละ 160 บาท สันนอก ราคากิโลกรัมละ 192 บาท สันใน ราคากิโลกรัมละ 191 บาท และหมูสามชั้น ราคากิโลกรัมละ 200 บาท และปัจจุบันก็กำลังค่อยๆ กระชากราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
โดยราคา ณ ปัจจุบัน (12 พฤษภาคม 2565) ราคาหมูบดอยู่ที่ 165 บาทต่อกิโลกรัม สันนอกอยู่ที่ 200 บาทต่อกิโลกรัม สันในอยู่ที่ 195 บาทต่อกิโลกรัม และหมูสามชั้นอยู่ที่ 210 บาทต่อกิโลกรัม
เมื่อเนื้อหมูราคาสูงขึ้น ราคาข้าวต่อจานในร้านอาหารทั่วไปก็จะสูงขึ้นเช่นเดียวกัน และจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปากท้องของประชาชนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามรัฐบาล โดยเฉพาะผู้เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ได้มีความคิดเห็นต่อสถานการณ์ราคาเนื้อหมูในปัจจุบัน และยังไม่ได้ประกาศมาตรการใดๆ ออกมาอย่างชัดเจนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวของประชาชน