สิ่งหนึ่งที่เกินจินตนาการของเราทุกวันนี้คือ จะอยู่อย่างไร หากไม่สระผมด้วยแชมพู และนวดบำรุงผมด้วยครีมนวดหรือคอนดิชันเนอร์สารพัดขนาน ผมคงจะเป็นสังกะตัง ไม่ก็จัดทรงลำบากเพราะพันกันยุ่งเหยิงไปหมด หลายคนจึงบอกว่า การสระผมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในแต่ละวัน
ส่วนประกอบของแชมพูโดยทั่วไปในท้องตลาด ร้อยละ 50 คือน้ำ อีกครึ่งหนึ่งก็เป็นส่วนผสมของ สารลดแรงตึงผิว สารกันเสีย น้ำหอม สี และสารที่เติมเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษของแต่ละสูตร อาทิ เพิ่มความเงางาม ช่วยให้จัดทรงง่าย ซึ่งส่วนประกอบแต่ละอย่างก็มีทั้งชนิดที่เป็นสารสังเคราะห์ และสารสกัดจากธรรมชาติ
ขณะที่มีการทดลองงดใช้แชมพูในต่างประเทศหลายกรณี โดยเฉพาะบล็อกเกอร์สาว แจคเกอลีน แบร์ส ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การไม่ใช้แชมพูตลอด 5 ปี ก็สามารถทำให้ผมเงางามเป็นประกายได้ไม่แพ้การสระผมด้วยแชมพูและคอนดิชันเนอร์ตามปกติ
ประสบการณ์จากผู้ที่ทดลองส่วนใหญ่บอกตรงกันว่า ผ่านไปไม่เกิน 2 สัปดาห์ ผมที่ไม่ใช้แชมพูเลยจะมันวาว เห็นเป็นลอนชัดเจน ค่อนข้างลีบติดหัว แต่เมื่อจับดูจะรู้สึกถึงความเนียนและนุ่มกว่าปกติ
หลังจากหนังศีรษะสร้างสมดุลด้วยการผลิตน้ำมันจนการสระผมด้วยน้ำเปล่าทำให้รู้สึกว่าผมมันเกินไปแล้ว ก็ถึงเวลานำเบกกิงโซดา 1-2 ช้อนโต๊ะ (ชื่อวิทยาศาสตร์ของ Baking Soda คือ โซเดียมไบคาร์บอเนต) ปรับปริมาณได้ตามความยาวผม ผสมกับน้ำอุ่น คนให้เข้ากัน นำมาราดลงบนหัวขณะเปิดฝักบัวไปด้วย นวดเบาๆ เพื่อให้น้ำเบกกิงโซดากระจายทั่วทั้งหัว จากนั้น ผสมแอปเปิลไซเดอร์ 1-2 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 1-2 ถ้วย แล้วนำมาล้างผมให้ทั่วอีกครั้ง
ไม่ต่างจากวิชาเคมีขั้นพื้นฐาน เมื่อสระผมด้วยเบกกิงโซดาที่มีฤทธิ์เป็นด่าง แล้วได้รับความเป็นกรดจากน้ำผสมแอปเปิลไซเดอร์ ก็จะกลายเป็นกลาง ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลให้เส้นผมไปในตัว
การไม่ใช้แชมพูเลยอาจไม่ได้เหมาะสำหรับสภาพผมของทุกคน หลายคนที่มีผมหยักศกและค่อนข้างหนา เมื่อทดลองงดแชมพูแล้วอาจรู้สึกว่าหนังศีรษะดีขึ้นมาก ขณะที่มีคนผมตรงและบางกว่า เมื่อทดลองเสร็จ ไม่สามารถงดใช้แชมพูได้ ก็ต้องหันมาใช้แชมพูจากธรรมชาติ (ปลอดสารเคมี) แทน
ที่มา: treehugger.com
good.is
Author
