คาเฟอีน ถือเป็นสารที่ถูกใช้กระตุ้นร่างกายมากที่สุดในโลก เมื่อพูดถึงคาเฟอีน เรามักนึกถึงกาแฟเป็นอย่างแรก แต่ปัจจุบัน เราสามารถหาเครื่องดื่มชูกำลังที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนได้ทุกร้านสะดวกซื้อ
ในอเมริกาเหนือ คนวัยทำงานร้อยละ 80-90 ต้องบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกวัน ตัวเลขเฉลี่ยของการบริโภคคาเฟอีนชาวอเมริกันต่อวันอยู่ที่ 280 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับกาแฟ 1-2 แก้วใหญ่ หรือน้ำอัดลม (ที่มีส่วนผสมคาเฟอีน) 5 ขวด
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ปี 2009 ทำเงินในสหรัฐราว 4 พันล้านดอลลาร์ โดย Red Bull ยังครองอันดับหนึ่งในตลาดสหรัฐ โดยมีส่วนแบ่งร้อยละ 65 ในปี 2012 เรดบูลทำยอดขายไปกว่าพันล้านดอลลาร์ ขณะที่ โคคา-โคล่า มีรายได้กว่า 4,680 ล้านดอลลาร์ คาดการณ์กันว่า วัยรุ่นมากกว่า 1 ใน 3 ติดเครื่องดื่มชูกำลัง
ในช่วงวัยรุ่น เป็นวัยที่ต้องการการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อการพัฒนาสมองขณะหลับ
ผลศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า การได้รับคาเฟอีนในปริมาณมากๆ จะลดประสิทธิภาพและพัฒนาการสมอง
นักวิจัยจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเด็กซูริค พบผลของคาเฟอีนส่งผลต่อพัฒนาการสมองของหนูในวัยเจริญพันธุ์ โดยพบว่าเมื่อได้รับคาเฟอีน การพัฒนาของสมองจะชะงักงัน และการรับคาเฟอีน 3-4 ถ้วยต่อวันในคน จะลดปริมาณภาวะหลับลึกและส่งผลให้พัฒนาการทางสมองล่าช้า
เมื่อเทียบกับกลุ่มหนูทดลองที่ได้รับน้ำเปล่า นักวิจัยพบว่า หนูเหล่านั้นมีระบบประสาทเชื่อมโยงในสมองที่รวดเร็วกว่ากลุ่มหนูที่ได้รับคาเฟอีนอย่างเห็นได้ชัด
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (Food and Drug Administration: FDA) รายงานว่ามีกรณีเสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ระหว่างปี 2009-2012 มากกว่า 5 ราย
หนึ่งในนั้นคือ อเล็กซ์ มอร์ริส ที่มีประวัติดื่ม มอนสเตอร์ เครื่องดื่มชูกำลังยอดนิยมอันดับ 2 ในสหรัฐ ซึ่งเขาต้องดื่มมันวันละ 2 ขวดเป็นประจำทุกวัน กระทั่งวันที่ 12 กรกฎาคม 2012 มีรายงานว่าอเล็กซ์ในวัย 19 ปีเสียชีวิตในโรงพยาบาลจากอาการหัวใจวาย
ที่มา: exposingthetruth.co /
alternet.org