ถึง … จอร์จ วาเลนติน

the artist 1

เรื่อง : คีรีบูน วงษ์ชื่น

เมื่อคืน ฉันไปดูหนังที่คุณเล่นมาค่ะ นึกไม่ถึงเลยว่า ฉันจะได้ดูหนังที่ถ่ายทำด้วยฟิล์มแท้ๆ อีกครั้งในยุคสมัยนี้ มันเป็นความตื่นเต้นแรกๆ เลยทีเดียวที่ทำให้ฉันอยากไปดูหนังที่คุณเล่น และจะขอข้ามประเด็นออสการ์นั่นไปนะคะ มันไม่ได้สำคัญกับฉันเท่าไหร่นักหรอก (แต่ถึงยังงั้น…ฉันก็อดจะดีใจไปกับคุณด้วยไม่ได้อยู่ดี)

ตลอดเวลาที่เห็นคุณในหนัง ได้ชมการแสดงของคุณ ได้เห็นสีหน้า แววตา รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินด้วยหูสองข้าง ตลอดจนท่าทางการแสดงออกที่ฉัน เรา-คนร่วมยุคสมัยอาจจะไม่เคยคุ้ยเท่าไหร่นัก…บอกความลับให้ก็ได้ค่ะ ฉันน่ะออกจะขำอยู่สักหน่อยตลอดเวลาที่นั่งชมหนังของคุณ แต่มันเป็นอาการขำที่ฉันคิดว่าน่าจะมาจากการที่มันทำให้ฉันคิดถึงการนั่งดูหนังเงียบแบบนี้ของตัวเองในวัยเด็กขึ้นมา

เวลานั้นมันเป็นยังไงน่ะเหรอ…อืม จำได้ว่า ฉันกับพี่ชายอีกสองคนช่วยกันยกทีวีจากห้องด้านล่างขึ้นมาไว้ในห้องนอน เราปิดหน้าต่างทุกบานด้วยผ้าห่ม ทั้งห้องมืดสนิท นั่น-คือโรงหนังในวัยเด็กของเรา

หนังเรื่องแรกๆ ที่ได้ดู น่าจะเป็นหนังของชาร์ลี แชปลิน ล่ะมั้ง ต่อจากนั้น เราก็ยังได้ดูหนังเงียบกันต่อมาอีกหลายเรื่อง ที่ไม่ใช่หนังตลก (ปนเศร้า) แบบหนังของชาร์ลี แต่ออกจะเป็นเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา ดราม่าสุดๆ (แบบหนังที่คุณเล่นนั่นแหละ) แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันกับพี่ชายก็ยังสนุกสนานเพลิดเพลินกับการได้ดูหนังประเภทนั้นอยู่ดี-หมายความว่า เราอาจจะยังไม่ประสีประสาพอในความดราม่าของหนังกันขนาดนั้น…เราดูเพราะรู้สึกสนุกที่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เราสนุกกับการอ่านสีหน้า ท่าทาง อารมณ์ แม้กระทั่งการอ่านริมฝีปากของตัวละคร สนุกที่ทุกคนในหนัง พูด เดิน หัวเราะ และทำอะไรๆ ทุกอย่างก็ดูจะเกินกว่าสปีดในชีวิตจริง…

The Artist 4

เสียงหัวเราะแบบนั้นของเราสามพี่น้อง มันเหมือนจะดังกึกก้องขึ้นมาอีกครั้ง…ในค่ำคืนที่ได้ดูหนังของคุณ

แล้วในห้วงเวลาต่อมานั้น คุณก็ทำให้ฉันคิดถึงพ่อ…คุณทำให้ฉันคิดถึงยุคอันสว่างเรืองรองของหนังไทย-ที่ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 35 มม. ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก (และนั่นมันทำให้ฉันได้รู้จักกับฟิล์มโกดัก อั๊กฟ่า ฟูจิ และโคนิก้า) คุณทำให้ฉันคิดถึงกระเป๋าใส่ฟิล์มใบใหญ่ หนักอึ้ง ที่มักจะวางอยู่ข้างโต๊ะทำงานของพ่อเสมอ คุณทำให้ฉันคิดถึงบรรยากาศในกองถ่ายหนังอันน่าเบื่อหน่าย (ร้อน เสียงดัง วุ่นวาย และมากมายปัญหา) คุณทำให้ฉันคิดถึงโรงหนังเฉลิมไทยตรงถนนราชดำเนิน คุณทำให้ฉันคิดถึง…ยุคตกต่ำที่สุดของวงการหนังไทย

ภาพคุณเซ็นเช็คใบแล้วใบเล่า ภาพคุณนั่งดื่มเหล้าจนตาแดงก่ำ ภาพความผิดหวังพ่ายแพ้กับชีวิต นั่น…มันช่างดูคล้ายเพิ่งจะผ่านตาฉันไปเมื่อไม่นานนี้เอง มันซ้อนทับตัดสลับไปมาระหว่างการนั่งดูหนังของคุณ-ภาพในชีวิต…เมื่อวันวาน…ชัดเจนและช่างเหมือนจริง

The Artist2

คงไม่ต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว หนึ่งร้อยนาทีเต็มนั้น ช่างอิ่มเอม และหอมหวานสำหรับฉันเหลือเกิน…

และบางที หลังจากวันนี้แล้ว ฉันอาจจะลองเขียนจดหมายแบบนี้ขึ้นมาอีกสักฉบับก็ได้…

เขียนถึงพ่อของฉันเองน่ะ เอ…หรือฉันจะลองเขียนมันซะตอนนี้ให้คุณลองอ่านดูก่อนเล่นๆ

ลองดูก็แล้วกันนะ …

ถึง…พ่อ

ที่จริงฉันคิดว่าพ่อไม่ได้พ่ายแพ้หรอก บางที อาจไม่ใช่เรื่องของการยอมจำนนอะไรนั่นด้วย ฉันว่าพ่อเป็น ‘ศิลปิน’ นะ อย่างน้อยก็ในสายตาฉัน และพี่ชาย ไม่ว่าอะไรๆ ในโลกนี้มันก็ล้วนแต่หมุนเวียนเปลี่ยนแปลง สลับเก่าไป-ใหม่มาอยู่ตลอด เป็นอนิจจัง (ซึ่งพ่อเองก็คงเข้าใจในเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว)

แต่ที่ฉันอยากจะบอกกับพ่อก็คือ พ่อยังคงเป็น ‘ศิลปิน’ สำหรับพวกเรา (ฉัน และพี่ชาย) เสมอมา…และก็จะเป็นไปจนตลอดนั่นแหละ

พ่ออาจไม่ได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้โลกจดจำ แค่พ่อยังคงทำงานของพ่อ เชื่อ รัก และทำมันออกมาให้พวกเราเห็นอยู่เสมอ…และนั่นเอง ที่มันทำให้ฉันเชื่อว่า ศิลปินที่แท้จริงจะสร้างงานขึ้นมาจากความรัก และความรักก็คือ ‘ศิลปิน’ ที่แท้จริงด้วยเช่นกัน

ฉันคิดว่า พ่อ ก็คงจะเชื่อเช่นนั้นนะ…

คงจะประมาณนี้มั้งคะ ที่ฉันอยากจะบอกกับพ่อ อ้อ ฉันเองก็อยากจะบอกแบบนี้กับคุณด้วยเหมือนกันนะ

ก่อนจะต้องร่ำลาคุณตรงนี้ ยังคงมีอีกเรื่องสำคัญ ที่อยากจะบอกกับคุณ…

ฉันเชื่อว่าการมีใครสักคนคอยอยู่เคียงข้างเรานั้น นับเป็นเรื่องวิเศษสุดเรื่องหนึ่งของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ค่ะ

ในกรณีของคุณ-จอร์จ…คุณมีเป๊ปปี้ มิลเลอร์ ไงคะ

ส่วนพ่อของฉัน ก็ยังคงมี แม่…เช่นกัน

สุดท้าย, ขอบคุณสำหรับหนังและการแสดงอันยอดเยี่ยมของคุณ ที่ฉันคงจะไม่มีวันลืม…

ป.ล. 1 ฉันชอบฉากสุดท้ายมากที่สุดด้วยค่ะ ที่คุณกับเป๊ปปี้เต้นแท็ป…มันทำให้ฉันยิ้มตามพวกคุณไปด้วยจนจบ…

ป.ล. 2 ฉันเสียน้ำตาให้กับหนังของคุณไปหลายหยดทีเดียว… และโดยเฉพาะทุกครั้งที่เจ้าหมานั่นเข้าฉากน่ะ มันทำให้ฉันคิดถึงหมาตัวแรกที่เคยเลี้ยงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ

ขอบคุณคุณอีกครั้งนะคะ…จอร์จ วาเลนติน

ฉันเอง (ผู้ชมแถว-E1)

The Artist 01

*******************************

(หมายเหตุ : ตีพิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์เรื่องเล็กในหนังใหญ่ มีนาคม 2555)

Author

คีรีบูน วงษ์ชื่น
นักพิสูจน์อักษร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า