วันศุกร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี ฌอง มาร์ก เอโร แถลงถึงการจัดทำงบประมาณและนโยบายการเก็บภาษีแบบใหม่ โดยจะเก็บภาษีคนรวยสูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนรัดเข็มขัดงบประมาณที่ขาดดุลมาตลอด
ฌอง มาร์ก เอโร เผยเบื้องหลังว่า กว่านโยบายนี้จะผ่าน ผ่านการถกเถียงมาหนักมาก แต่ก็ต้องเดินหน้าเพราะเป็นวิธีที่จะบรรเทาหนี้สาธารณะฝรั่งเศสที่รังแต่จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้แบกรับไม่ใช่ใครนอกจากประชาชนและลูกหลานรุ่นถัดไป
สื่อฝั่งอังกฤษ อย่าง The Guardian เรียกภาษีนี้ว่า Supertax ซึ่งเป็นการเก็บภาษี 75 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 2 ปี สำหรับผู้ที่รายได้เกิน 1 ล้านยูโรต่อปี (ประมาณ 50 ล้านบาท) ซึ่งคาดว่าผู้เสียภาษีกลุ่มนี้มีประมาณ 2,000 คน และสำหรับ ผู้ที่มีรายได้ เกิน 150,000 ยูโรต่อปี (ประมาณ 6 ล้านบาท) จะเสียภาษีอยู่ที่ 45 เปอร์เซ็นต์
ด้านบริษัทมหาชนต่างๆ ที่อยู่ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส ฌอง มาร์ก เอโร เผยว่ากำลังอยู่ในขั้นการพิจารณาอัตราภาษีใหม่ เพราะที่ผ่านมา บริษัทมหาชนเหล่านี้ จ่ายภาษีน้อยกว่าบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กเสียอีก
“เราอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแสดงความรับผิดชอบมากขึ้น” ฌอง มาร์ก เอโร กล่าว
ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการ ลดงบประมาณที่ขาดดุลให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับ3 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ตามที่ยูโรโซนกำหนดไว้ ในปี 2556 และตั้งเป้าไว้ว่า สถานะการคลังจะกลับมาสมดุลในปี 2560
(ที่มา : commondreams.org)