Consumer Reports นิตยสารรายเดือนของสหภาพผู้บริโภคในสหรัฐ ทำการทดสอบสิ่งเจือปนในเนื้อไก่สดที่วางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป โดยเน้นในส่วนของอกไก่ และเสนอรายงานการพบแบคทีเรียในกลุ่มตัวอย่างเนื้ออกไก่ร้อยละ 97
หลังมีโรคระบาดที่คาดว่าเกิดจากแบคทีเรีย Salmonella ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2013 แม้จะพบแบคทีเรียเหล่านี้ในอาหารเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้เจ็บป่วยได้ โดยคาดว่าเกิดจากเนื้อไก่ที่ผลิตในฟาร์ม ทำให้กระทรวงเกษตรของสหรัฐออกประกาศเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากการบริโภคเนื้อไก่ที่ผ่านกระบวนการการผลิตในโรงงาน 3 แห่งของ Foster Farms ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยโรคระบาดครั้งนั้นส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้างถึง 18 รัฐ มีผู้ป่วยรวมกันราว 380 ราย
ทีมทดสอบของ Consumer Reports นำอกไก่ดิบกว่า 300 ชิ้นจากชั้นวางในห้างสรรพสินค้า 26 รัฐมาหาสิ่งเจือปน โดยเนื้อไก่ที่นำมาศึกษานั้นมีเนื้อไก่ออร์แกนิกรวมอยู่ด้วย พบว่าร้อยละ 97 ของเนื้อไก่ที่นำมาศึกษานั้นมีเชื้อแบคทีเรีย
ประมาณการว่าคนอเมริกันบริโภคเนื้อไก่คนละ 37 กิโลกรัมต่อปี ในแต่ละปีมีคนอเมริกันเสียชีวิตจากการรับได้รับเชื้อไวรัสกว่า 23,000 คน และมีผู้ป่วยอีกประมาณ 2 ล้านคนกำลังประสบปัญหาเชื้อแบคทีเรียสามารถต้านทานต่อยาปฏิชีวนะที่แพทย์สั่ง
นอกจากนี้ในรายงานยังพบว่าไม่มีเนื้อไก่ของแบรนด์ใหญ่รายใดปลอดเชื้อแบคทีเรีย โดยมากกว่าครึ่งของกลุ่มตัวอย่างเป็นเชื้อที่อาจปนเปื้อนมาจากอุจจาระ และส่วนใหญ่พบว่าเป็นแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะหลายตัว จากกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 65 พบ E. Coli หรือแบคทีเรียแกรมลบ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการอาหารเป็นพิษ และร้อยละ 18 พบเชื้อโรคที่ส่งผลต่อโรคทางเดินปัสสาวะ
สำหรับการนำเนื้อไก่มาประกอบอาหาร Consumer Reports แนะนำว่าควรใช้อุณหภูมิอย่างน้อย 90 องศาเซลเซียส หากใช้อุณหภูมิต่ำกว่านี้อาจจะลดความเสี่ยงได้น้อย เพราะนอกจากแบคทีเรียที่อาจปนมาในเนื้อไก่ แบคทีเรียบางส่วนอาจมาจากขั้นตอนอื่นๆ ในการเตรียมอาหาร อาทิ จากมือสัมผัส หรือก๊อกน้ำ
ที่มา: consumerreports.org
alternet.org