เรื่องยาวๆ ของสาวนุ่งสั้น

 bitoey3

เรื่อง : กำพล พกนนท์

ภาพ : อนุช ยนตมุติ

ในรอบปีงูใหญ่ที่ผ่านมา ชื่อของ “ใบเตย อาร์สยาม” หรือ สุธีวัน ทวีสิน มีข่าวให้ได้ลงตามหน้าสื่อบันเทิงตลอดทุกวัน ในบรรดาคนดังที่เป็นสตรี  ถ้านับความถี่ เธออาจเป็นรองเพียงนายกรัฐมนตรี

ชีวิตของนักร้องลูกทุ่งผู้หญิงหนึ่งคน มันจะมีแต่ข่าวคาวกับผู้ชายอย่างนั้นหรือ  ยัดเยียดฉายา “นุ่งสั้นเสมอหู” ให้ ก็ออกจะดูถูกเธอเกินไปหน่อย

วันนี้สาวนุ่งสั้น กับเรื่องยาวๆ ของเธอ อาจทำให้หลายคนเปลี่ยนความคิด

 

ลูกทุ่งของใบเตย

หลักๆ ที่เห็นชัดเจนเลยคือดนตรี ที่มีความเป็นเกาหลีมากขึ้น ดนตรีจะสนุก ใช้ซาวน์อีเล็กทรอนิกซ์มากขึ้น ใช้ซาวน์เพิ่มความสนุกสนานเพิ่มความคึกคักกับตัวเพลงมากขึ้น คำร้องที่เมื่อก่อนก็อาจจะเกี่ยวกับท้องทุ่งนา แต่มา ณ ปัจจุบันก็จะเน้นพวกคำฮิตติดปากอย่าง “ชิมิ” “เช็คเรตติ้ง” เนื้อเพลงก็จะเป็นชีวิตประจำวันของเราที่สัมผัสได้จริง เห็นได้จริง ด้วยยุคสมัยมากกว่าที่ทำให้มันทันสมัย ทุกอย่างก็ต้องก้าวล้ำตามยุคสมัย อัลบั้มใหม่ๆ เริ่มมีส่วนเข้าไปดีไซน์เสียงร้อง คิดทำนองการร้อง คำร้อง ให้เป็นลูกทุ่งสมัยใหม่ แต่หลักๆ ที่เข้าไปดูก็จะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม อย่างล่าสุดนี้ก็เป็นการออกแบบท่าเต้น

อย่างล่าสุดเพลง “เช็ดแล้วทิ้ง (รกอก)” รกอกเป็นภาษาใต้ คนก็จะถามมากว่ามันแปลว่าอะไร มันเป็นคำติดปากหนูอยู่แล้ว โปรดิวเซอร์ก็หยิบมาใส่ในเพลงเลย จริงๆ มันแปลว่าหนักใจ อึดอัดใจ รำคาญ พอเราพูดบ่อยๆ โปรดิวเซอร์ก็เลยได้ไอเดียไปแต่งเพลงให้มีคำนี้อยู่ด้วย

 

ถ้าไม่สั้น ไม่ใช่ใบเตย

มีสไตลิสต์ที่ทำงานด้วยกันมาตลอดตั้งแต่ชุดแรกยันชุดล่าสุด เขาก็จะดูในความเป็นเรา จะมองลุคส์เราว่า ใบเตยต้องสั้น ต้องโชว์เรียวขา เพราะเรามีเรียวขาดูดี ต้องเน้นสะโพก อก เอว เพราะเรามีส่วนนี้ที่เหมือนเป็นจุดขาย เป็นโลโก้ เป็นคอนเซปต์ เป็นไอคอน เป็นใบเตยค่ะ ถ้าไม่สั้น ไม่ใช่ใบเตย

เวลาเล่นคอนเสิร์ตก็ไม่ค่อยใส่ที่เซฟเยอะ ถ้าเราใส่กระโปรงสั้น ก็จะใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างใน แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดรัดกุม บางทีเราต้องเต้นตลอดจะใส่อะไรที่มันรัดกุมมาก มันก็จะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ

แต่ก็ไม่อยากให้เขามองถึงขนาดนั้นนะ อยากให้เข้าใจว่า มันเป็นหน้าที่การทำงาน เราก็อยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด เป็นตัวเรามากที่สุดเท่านั้นเอง ปกติแล้วเราก็ค่อนข้างจะใส่สั้นจริงๆ (หัวเราะ)

 

รักนะแต่ขอด่าหน่อย

ใบเตยโดนด่าเยอะมากที่สุดแล้ว โดยเฉพาะในโซเชียล เน็ตเวิร์ก แต่มันก็มองได้หลายมุม คนที่ด่าเราแย่ๆ ส่วนใหญ่คือรู้จักเราทั้งหมด หลักๆ เลยก็วิจารณ์ว่า ถ้าจะใส่แบบนี้ถอดเถอะ นี่นักร้องลูกทุ่งเหรอ โป๊เกินไป สั้นเกินไป อันนี้ก็คำเตือน อันที่หยาบๆ ก็จะเป็นจากเว็บ บางคนรู้ทุกอย่าง ดูทุกรูปในอินสตราแกรม กดไลค์ตลอด แต่ก็ด่าค่ะ เหมือนชอบนะ แต่ขอด่าสักนิดเถอะ เขาคงจะมีความสุขไปวันหนึ่ง เราก็ชินแล้ว คิดอะไรมากไม่ได้ เพราะเรามาอยู่ตรงนี้ต้องรับให้ได้กับสิ่งที่ต้องเจอ

ล่าสุดมีผู้ชายบอกว่า “ชอบนะ แต่บางทีเธอก็ทุเรศไป” เพื่อนหนูก็ด่ากลับไป “ด่าผู้หญิงแบบนี้ได้ไง” เขาก็ตอบกลับว่า “ไม่เห็นจะผิดตรงไหนเลย ผมก็ชอบ ผมก็ติดตามตลอด แต่ผมเกลียดเขา” อะไรแบบนี้ เราก็งง ตกลงมันสปีชี่ไหนกันแน่ (หัวเราะ)

เราเคยตอบโต้เล็กๆว่า “ขอบคุณค่ะ” อย่างน้อยคุณก็รู้จักฉัน ฟังเพลงฉัน เราจะคิดในมุมนี้ไป ก่อนจะติเราบางคนนี่ รู้ลึกรู้จริง รู้ว่าเราไปเล่นที่ไหน ไปงานที่ไหน ยิ่งกว่าแฟนพันธุ์แท้ แต่ด่า

 

bitoey4

 

คนฟังไม่เหมือนเดิม

เอาแบบที่เป็นเรานี่แหละ แต่เผอิญว่าแบบที่เป็นเรานั่นแหละที่มันไม่เหมือนชาวบ้าน มันหลุดไปจากชาวบ้านเยอะมาก แต่ด้วยความที่ มันเป็นแบบนี้แล้วมันกลับดีมาก ในมุมหนู ถ้าหนูออกซิงเกิลแรกมาแล้วคนไทยไม่ยอมรับ ไม่เอาลูกทุ่งแบบนี้ เราก็คงจะหยุดตั้งแต่ตอนนั้น แต่มา ณ วันนี้มันไม่ใช่ ทุกคนชอบ “เช็คเรตติ้ง” ทุกคนเต้นเช็คเรตติ้งตั้งแต่เด็ก 2 ขวบยันคนแก่ 60 ทุกคนฟัง “ชิมิ”  เราเลยต้องอยู่ตรงนี้ต่อไป

ถ้าให้กลับไปแต่งตัวแบบลูกทุ่งเดิมๆ หนูก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร อย่างเราหรือศิลปินทุกคนในค่าย เรามาจากความเป็นลูกทุ่งแท้ๆ เราไม่ได้เกิดมาประกวด “ชิมิ” แต่เรามาจาก “สาวเพชรบุรี” “เสียงรถด่วนขบวนสุดท้าย” เรามาจาก “หม้ายขันหมาก” เป็นคนลูกทุ่งแท้ๆ

ด้วยยุคสมัย ไปหน้าเวทีทุกวันนี้ไม่มีใครขอ “นักร้องบ้านนอก” ไม่มีใครขอ “บทเรียนราคาแพง” มีแต่คนขอ “กินตับ” “คันหู” อะไรแบบนี้ ร้องร้อยเวที ก็จะขอแต่สองเพลงนี้ เราเลยเข้าใจแล้วว่าปัจจุบันมันคือแบบนี้  มันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกวันนี้เราก็ยังแอบร้องเพลง “นักร้องบ้านนอก” นะ เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่ใช้ขึ้นเวที เรามาจากรากหญ้า

 

ไม่ใช่เซเลบ

หนูก็ไม่เถียงนะคะ ว่าดังเพราะงานโชว์ตัว มันก็จริง คือด้วยความที่ตัวเรามีอะไรมากว่าเสียงเพลง ด้วยอะไรหลายๆ อย่างรอบตัวเรา คนดันสนใจมากกว่าเรื่องเพลง ยิ่งเรื่องไม่ดีหรือเรื่องหนุ่มๆ มันขายดีอยู่แล้วอะ ทำให้เราค่อนข้างมีชื่อเสียงจากตรงนี้ ส่วนตัวแล้วอยากให้คนสนใจเรื่องเพลงเรามากกว่า เราคือนักร้อง ก็อยากให้รู้จักจากเพลง เหมือนที่ผ่านมาคนได้ยินชื่อใบเตย ก็อ๋อ ที่มีข่าวกับพระเอก คนที่โจรขึ้นบ้าน ซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าได้ยินว่า “ใบเตยเช็คเรตติ้ง” จะรู้สึกดีกว่าค่ะ

มีเสียงบอกว่าหนูชอบสร้างกระแส คือจะบอกว่า หนูไม่ต้องสร้างอะไรเลย เหมือนเรามีคนคอยสร้างให้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะทางค่าย ทางเว็บต่างๆ คือแค่หนูนั่งกินข้าวต้มกับเพื่อน ทุกเว็บลงหมด มัน none-sense มาก แค่ลงรูปไปเที่ยวเชียงใหม่ใส่บิกินี่ ทุกเว็บก็ลงหมด ซึ่งไม่ต้องสร้างอะไรเลย โซเชียล เน็ตเวิร์ก ทำให้มันง่ายมากที่เขาจะเอาพวกนี้ไปเป็นข่าว อย่างโจรขึ้นบ้าน ขึ้นไปถึงห้องนอนแต่ไม่ทำอะไรหนู ตำรวจก็ยังงง ล่าสุดไปร้องเพลงที่โคราช อยู่ๆ ป้ายบิลบอร์ดก็หล่นมาใส่ขาเรา คือศิลปินไปร้องกันเป็นสิบแต่หล่นมาที่หนู (หัวเราะ)

มันเยอะมากค่ะ เราก็คิดว่าไม่ต้องลงอะไรขนาดนี้ก็ได้ เดี๋ยวคนจะมาด่าหนู จะหมั่นไส้เรา จะเกลียดเรา เอะอะอะไรก็ลงแต่ใบเตยๆ มีคนด่าในเน็ต “แค่อีนี่กินข้าวต้มกับเพื่อนก็เอามาลง” “อีนี่ไม่ได้เรื่องเลย ขี้เหร่สุดๆ” เยอะมาก มันตลกมาก ทุกอย่างก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้สร้างกระแส ไม่มีเวลามานั่งสร้างด้วยค่ะ มันไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายเรื่องที่เจอมีแต่เรื่องแปลกๆ มันไม่ใช่เรื่องสนุกสักเรื่องเลย

 

ของแท้ พ่อแม่ให้มา

ไม่เลยค่ะ (ตอบทันที) ยิ่งหน้าอกที่เห็นว่าใหญ่คือรีทัชล้วนๆ สีผิวที่เขามีนวัตกรรมฉีดผิวขาว หนูไม่เคยแตะเลยสักเข็ม แต่หนูขัดผิวบ่อยมากค่ะ มีสครับขัดผิวยี่ห้อไหนหนูซื้อใช้หมด ถึงแม้ว่าเป็นคนนอนน้อยทำงานเยอะ เราดูแลจากภายใน หนูกินอาหารเสริมวันละ 20 เม็ด ได้ค่ะ

เราไม่ชอบทำอะไรที่เจ็บตัว หมายถึงการศัลยกรรม การฉีด พวกนี้จะไม่ชอบเลย มันเจ็บ เจาะหูก็ยังไม่ค่อยกล้าเลย ไม่ได้เปรี้ยวแซ่บเลย อีกอย่างคือใบหน้าหนูก็ไม่ได้ต้องการอะไรมาก คุณพ่อคุณแม่ก็ให้ตา หู จมูก ปาก มาโอเคหมดอยู่แล้ว บีบ จับ ตบ ได้ทุกอย่าง แต่ด้วยความที่โตขึ้นและมีเทคนิคการแต่งหน้ามากขึ้น ได้ช่างที่เก่งขึ้น รู้จักมุมตัวเองมากขึ้น แอพพลิเคชั่นแต่งรูปช่วยได้เยอะมาก

วันธรรมดาไม่มีงาน หน้าเงือกมาเลยค่ะ หนูเป็นคนที่ไม่แต่งหน้าเลย หน้าเปลือย ชุดนอนเลย จริงๆ แล้วเป็นคนง่ายๆ มาก ที่เห็นสวยๆ นั่นเพราะช่างแต่งหน้า ใบเตยแต่งหน้าเองแทบจะไม่ค่อยเป็นเลย ที่ดูจากภาพก็เพราะมีคนคอยเนรมิตให้ตลอด ถ้าใบเตยวันธรรมดาจะไม่ได้เห็นแม้แต่มาสคาร่า ลิปสติกก็ไม่ทา

 

วัดยันเลาจน์

หนูได้ไปมาหมดแล้วทุกผับทุกเลาจ์ดังๆ ทุกงานฝังลูกนิมิตร ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน ทอดทุกอย่าง ทอดแล้วทอดอีก ว คือเริ่มเข้าวงการแรกๆ เราก็จะได้ไปงานวัด งานประจำปี ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน งานบวช งานศพ บางทีเมียตาย สามีก็ยังจ้างหนูไปร้อง หนูก็งงๆ เขาลงทุนจัดงานมหรสพฉลอง ให้หนูร้อง ให้หนูใส่สั้นเลยนะ เราก็คงว่า เออ เมียคุณตายแต่คุณฉลองเนี่ยนะ (หัวเราะ)

ตอนนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็จะเป็นทาร์เก็ตสถานที่ปลุกใจเสือป่า ได้ไปหมดทุกที่ เลาจน์ อาบอบนวด บางที่ มาม่าซังจ้างไปในงานวันเกิดในร้าน ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่น่าแปลกที่ไม่เคยเจอพวกโรคจิตเลยนะ ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เซ็กซี่ เพราะยังไม่เคยเจอโรคจิต ไม่เคยเจอพวกหื่น (หัวเราะ) อย่างมากก็อาจจะขอจับมือแล้วดึงมือเราแรงไปนิด แค่นั้นเอง

bitoey2

 

เป็นเด็กเรียนมาก่อน

เมื่อก่อนใบเตยพูดได้ 5 ภาษา มีไทย อังกฤษ มลายู ฝรั่งเศส แล้วก็จีน ได้เรียนมาตอนมัธยม เมื่อก่อนพูดคุยได้ สนทนาได้เลย แต่ถ้าเป็นประโยคบอกเล่ายาวๆ ตอนนี้หายไปกับกลีบเมฆแล้วค่ะ เพราะไม่ค่อยได้ใช้

ตอนเด็กเรียนดีมาก ไม่เหมือนตอนโต เหลวไหลมาก ตอนนั้นเรียนดีชนิดที่ว่าแค่ประกวดคัดลายมือยังชนะได้ที่ 1 ของจังหวัด แต่ตอนนี้ไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนเอาเท้ามาเขียนเลย ตอนนั้นเรียนดีมาก ยังภูมิใจในตัวเองตลอด เกรดเฉลี่ยล่าสุดยัง 3.65 สมัย ม.4 พอมาอยู่กรุงเทพฯ เท่านั้นแหละเหลือ 2.9 บ้าง 2.5 จนสุดท้ายเหลือ 2.1 เลยค่ะ ม.6 (หัวเราะ)

 

กาในฝูงหงส์

ตอนเราเรียนที่ปักษ์ใต้ หนูแฮปปี้มาก เรามีเพื่อนที่ดีมาก เรียนดีมากพอมากรุงเทพฯ มันแย่มาก เพราะหนูเป็นเด็กฝากเข้ามา ลุงหนูฝากเข้าโรงเรียนมากลางคัน เป็นเด็กเส้นไง เพื่อนเลยเกลียดหนูค่ะ บางทีออกไปพรีเซนท์หน้าห้อง ถูกเพื่อนเปิดกระโปรง บางครั้งครูก็จะถามคำถามภาษาจีน เพื่อนก็รู้ว่าเรายังไม่เก่ง พูดยังไม่ได้ ก็จะมีคนนึงชี้มาที่เรา “ถามใบเตยสิคะๆ นี่ตอบสิ”หนูอายคนมากเลยทำให้ไม่อยากไปโรงเรียน  หยุดไปเลย 1 เดือนค่ะเพราะเราไม่มีความสุขไง หนูเกลียดเพื่อนมากช่วงนั้น

มีตัวคนเดียวไง ตอนนั้นก็ทนมากเราเป็นเด็กเส้น เขาก็คงหมั่นไส้ไม่ชอบขี้หน้า เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอน ม.6 ก็พอถูไถไปมีเพื่อนห้องอื่น ตอนนี้ก็ไม่ถึงกับอาฆาตแค้นอะไร แต่ตอนนั้นทุกคนเหมือนกับไม่เปิดใจยอมรับเรา ก็มีบางคน(เพื่อนเก่า)ได้เจอบ้างก็ทักหนูนะ เรียกใบเตย แต่หนูไม่อะ อย่าได้มายุ่งกับฉันเลย ถ้าเธอแกล้งฉันขนาดนี้

 

เกิร์ลกรุ๊ปของใบเตย

ตอนแรกหนูเรียนการท่องเที่ยวและการโรงแรม หนูชอบอาชีพบริการ อยากมีโรงแรม อยากเป็นฟรอนท์ อยากเป็นจีเอ็มของโรงแรมใหญ่ๆ แต่ว่ามา ณ ตอนนี้ หนูอยากเปิดค่ายเองแล้วค่ะ หนูอยากทำทีมเพลง หนูอยากปั้นศิลปินลูกทุ่งหน้าใหม่ อยากเป็นคนคัดเลือกศิลปินเองทั้งหมด อยากเป็นคนสอนน้องๆ ทุกอย่างที่เราเคยได้รู้

แบบที่เราอยากปั้น (หยุดคิด) เอาเป็นใกล้เคียงกับเรา เกิร์ลกรุ๊ปหุ่นเป๊ะๆ ประมาณ 4 คนก้น มีนม มีเอว เหมือนกันหมด แต่ต้องร้องเพลงลูกทุ่งดีด้วย เหมือนวันเดอร์ เกิร์ล เวอร์ชั่นลูกทุ่งค่ะ ขาเรียวยาว แคสมาต้องร้องลูกทุ่งได้เพอร์เฟ็คท์หมด ไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ ต้องมีความเป็นลูกทุ่งเป๊ะด้วย แล้วต้องเต้นเก่ง

เรื่องดนตรีเราอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของการดูแลภาพลักษณ์ การบอกคอนเซปต์ คือหนูทำงานตรงนี้มาตลอด เราก็อยากชี้แนะให้เขาไปทางที่ถูกกันทุกคน กับสื่อกับวงการ การแต่งตัว แฟชั่นต่างๆ หนูรู้สึกว่าตัวเองบริหารตรงนี้ได้ หนูว่าหนูทำได้ และทำได้ดีด้วย

 

bitoey5

Author

ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ
หญิงแกร่งที่ทำงานทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านให้กับ WAY ถ้าเป็นนักฟุตบอลนี่คือผู้เล่นผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ในสายงานข่าว ทั้งคลุกคลี สัมภาษณ์ บันเทิง ไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้การเป็นคุณแม่ซึ่งมีลูกสาวย่างเข้าวัยรุ่นยังช่วยส่งเสริมให้สามารถปั่นงานด้านเด็กและเยาวชนอย่างเชี่ยวชาญ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า