7. ฟื้นฟูเกษตรกรรม ขั้นต่อไปของการปฏิรูปการเกษตร
เกษตรกรรมแบบฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ไม่ใช่แค่กลยุทธ์การผลิตอาหารทดแทนเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมของเรากับธรรมชาติ รอนนี คัมมินส์ (Ronnie Cummins) ประธานสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์และสมาชิกผู้ก่อตั้ง Regeneration International เขียนว่า การปฏิรูปเพื่อฟื้นฟูนี้จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันได้ตั้งแต่ฐานราก
เทคนิคการฟื้นฟูอยู่ที่การรื้อสร้างดินและคาร์บอน คัมมินส์บอกว่า อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คาร์บอน 200-250 พันล้านตันจากชั้นบรรยากาศบนพื้นโลกได้ใน 25 ปีข้างหน้าหรืออาจเปลี่ยนมุมมองสำคัญของภาวะโลกร้อนไปเลย เทคนิคนี้จะเก็บคาร์บอนไว้ในดินและพืชที่ยังมีชีวิต ทำให้มันเพิ่มปริมาณและคุณภาพในการผลิตอาหาร ลดดินพังทลายและกำจัดไหลเวียนของสารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยที่เป็นอันตราย
ในปี 2012 รัฐบาลกว่า 20 แห่งทั่วโลก (รวมทั้งอเมริกา) ใช้เงินไปราว 486 พันล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนเกษตรกรในระบบอุตสาหกรรม 50 ล้านคน และ “ทุ่มเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิลปีละ 5.3 ล้านล้านดอลลาร์ ใช้ซื้ออาวุธปีละ 3 ล้านล้านดอลลาร์” ขณะที่เกษตรกรและคนเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็กกว่า 3 พันล้านคนที่ผลิตอาหาร 70 เปอร์เซ็นต์ของโลกบนพื้นที่แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง
คัมมินส์ บอกว่า “การทำเกษตรกรรมเพื่อฟื้นฟูจะให้คำตอบต่อวิกฤติดิน อาหาร สุขภาพ สภาพภูมิอากาศ จนถึงวิกฤติระบอบประชาธิปไตย”
อ้างอิงข้อมูลจาก: projectcensored.org