ภาพประกอบ: antizeptic
เครื่องสำอางปลอมปรากฏเป็นข่าวหลายครั้ง สารเคมีที่นำมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเครื่องสำอางเป็นสารต้องห้ามในหลายประเทศ แต่ก็ยังมีเครื่องสำอางจำนวนไม่น้อยที่ฝ่าฝืนมาตรการควบคุม สำหรับประเทศไทย อาจไม่มี อย. หรือใช้ อย. ปลอม นั่นเท่ากับว่าเครื่องสำอางชนิดนั้นไม่มีใครรับรองความปลอดภัยและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้นั่นเอง
และถ้าไม่อยากให้ความขาว ไร้สิว ไร้ริ้วรอย แทนที่ด้วยรอยด่างไหม้ ห้ามใส่สารเหล่านี้ลงในเครื่องสำอาง!
ปรอท (Mercury)
ผิวขาว ไร้สิว ไร้ริ้วรอย
ความเข้มข้นของสารเคมีที่ทำให้หน้าขาวทันใจ ต้องมีส่วนประกอบของสารปรอทไม่เกิน 1 ในล้านส่วน (1 ppm) แต่ความเข้มข้นระดับนี้จะไม่มีผลทำให้สีผิวจางลง เครื่องสำอางบางชนิดจึงพยายามใช้สารปรอทในปริมาณมากกว่าที่กำหนด
กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ปรอทเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางตั้งแต่ พ.ศ. 2532 เพราะมีผลต่อการทำงานของตับ ไต เกิดโรคโลหิตจาง เฉพาะผิวหน้าที่ได้รับปรอทมากๆ จะทำให้ผิวหนังอ่อนแอ แพ้ง่าย ไวต่อรังสีอัลตราไวโอเลต
อ้างอิงข้อมูลจาก: mahidol.ac.th
ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
ใช้กำจัดสิว ฝ้า รอยกระให้ขาวขึ้น
ไฮโดรควิโนนจัดเป็นยาอันตรายที่มีแนวโน้มทำให้เกิดภาวะผิวหนังอักเสบ ถูกเพิกถอนจากการใช้เป็น ‘ยา’ ในบางประเทศแถบยุโรป แต่ประเทศไทยยังพบไฮโดรควิโนนในรูปแบบครีมและเจล ใช้สำหรับลดริ้วรอย ฝ้า และขี้แมลงวัน
อย่างไรก็ตาม ไฮโดรควิโนนยังถูกใช้เป็นยาเพื่อรักษาผิวหน้าจริง แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
อ้างอิงข้อมูลจาก: haamor.com
สเตียรอยด์ (Steroid)
ทำให้หน้าขาวใส
ปกติแล้วสเตียรอยด์ถูกผลิตออกมาเองตามธรรมชาติจากต่อมหมวกไต ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญในร่างกายอีกหลายชนิด เช่น อะดรีนาลีน วงการแพทย์นำสเตียรอยด์มาใช้รักษาอาการเจ็บป่วย และกลุ่มยาเสริมความงาม เป็นทั้งยาฉีด กิน หรือยาทาภายนอก
แม้สเตียรอยด์จะเป็นยาที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ออกฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรง เฉพาะผลข้างเคียงในเครื่องสำอาง ทำให้ผดผื่นขึ้นง่าย ผิวหน้าบาง ทำให้มลภาวะสารพิษจากภายนอกเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ได้ง่ายขึ้น เห็นเส้นเลือดแดงตามใบหน้าชัดขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก: pobpad.com
กรดเรติโนอิก (Retinoic acid)
รักษาสิว รอยด่างดำบนผิวหนัง ช่วยให้ผิวหนังผลัดเซลล์ใหม่
กรดเรติโนอิก (All-Trans-Retinoic acid) ถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติของไทย และระบุเป็นยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลันชนิดเอ็ม 3 (Acute promyelocytic leukemia) และมีการนำมาผลิตในรูปแบบยาใช้ภายนอกทารักษาสิว ช่วยให้ผิวหนังผลัดเซลล์ใหม่ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น