หลังจากไต่สวนพยานเมื่อ 4 กันยายน 2560 และไต่สวนเพิ่มเติมช่วงกลางเดือนมีนาคม 2561 วันนี้ศาลจังหวัดเชียงใหม่อ่านคำสั่งไต่สวนคดีวิสามัญฆาตกรรม ชัยภูมิ ป่าแส โดยบอกแต่เพียงว่า ชัยภูมิตายเพราะถูกทหารใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง โดยเหตุเกิดที่ด่านบ้านรินหลวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนกรณีข้อโต้แย้งกรณีที่ฝ่ายญาติไม่เชื่อว่านายชัยภูมิมียาเสพติดไว้ในครอบครอง หรือพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่จากอาวุธมีดและระเบิด รวมทั้งเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ศาลไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แต่อย่างใด
รัษฎา มนูรัษฎา ทนายความฝ่าย ชัยภูมิ ป่าแส กล่าวว่า ศาลมีคำสั่งชี้ข้อเท็จจริงที่ว่า ชัยภูมิ ป่าแส เสียชีวิตเพราะถูก พลทหารสุรศักดิ์ รัตนวรรณ ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง กระสุนปืนทำให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งกรณีนี้หากจะดำเนินการฟ้องร้องในคดีอาญาต่อนั้นอาจทำไม่ได้ เพราะกฎหมายของทหารนั้นจำกัดอำนาจของประชาชนในการเข้าถึง ศาลทหารนั้นต้องให้อัยการศาลทหารเป็นผู้ฟ้อง
“ทีมทนายความพยายามให้ข้อเท็จจริงไปสู่ศาลมากที่สุด คือเรื่องของการที่จะมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ด่านรินหลวง ซึ่งไม่ได้เข้ามาสู่สำนวนคดี เพราะกล้องที่ทหารส่งไปให้ตำรวจแล้วตรวจพิสูจน์ ทางตำรวจบอกว่า ไม่พบข้อมูลภาพในเหตุการณ์วันที่ 17 มีนาคม 2560 เวลาประมาณ 10.00 น. ก็แสดงว่าภาพเหตุการณ์ในจุดสำคัญหายไป”
ขณะที่สำนักข่าวประชาไท อ้างคำพูดของ สุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความอีกคนของฝ่าย ชัยภูมิ ป่าแส ต่อคำถามว่าเมื่อศาลมีคำสั่งเช่นนี้ มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่อัยการอาจสั่งไม่ฟ้อง สุมิตรชัยตอบว่าเป็นไปได้ และปัจจัยสำคัญก็คือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไม่ถูกเรียกมาประกอบการพิจารณาคดี
“เป็นไปได้ เพราะว่าหลักฐานสำคัญไม่ได้เข้ามาคือกล้องวงจรปิด เราขอให้ศาลเรียกหลักฐานดังกล่าวสองครั้ง ศาลไม่เรียกเพราะเห็นว่าหลักฐานต่างๆ เท่าที่มีนั้นเพียงพอแล้วในการมีคำสั่ง ในมุมของศาลก็ถูกต้องหากศาลจะสั่งเพียงเท่านี้ แต่หากต้องการชี้ความจริงบางประการ กล้องวงจรปิดเป็นส่วนสำคัญมากในการวินิจฉัย ทั้งนี้ ตอนนี้ในชั้นสอบสวน ทั้งพนักงานสอบสวนและอัยการยังมีอำนาจในการเรียกหลักฐานเพิ่มเติมได้ เพราะสำนวนการสอบสวนยังไม่สรุป ทั้งสองหน่วยงานยังมีอำนาจเรียกกล้องวงจรปิดได้” สุมิตรชัย หัตถสาร กล่าวเช่นนั้น
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ซึ่ง WAY ได้รวบรวมไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ไว้อย่างละเอียดผ่านรายงานเรื่องนี้ ‘ไทม์ไลน์ ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ จากกระสุนปลิดชีวิต สู่กล้องวงจรปิดในตำนาน’