เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) เปิดเผยสถิติสถานการณ์ผู้บริโภคในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบหลายด้าน โดยในช่วง 3 เดือนนี้ มพบ. และเครือข่ายผู้บริโภคได้ให้คำปรึกษาและรับเรื่องร้องเรียนทั้งหมดจำนวน 1,055 เรื่อง
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากสถิติเรื่องร้องเรียนพบข้อสังเกตที่น่าสนใจ 3 อันดับแรก ดังนี้
อันดับ 1 อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ปัญหาที่ผู้บริโภคได้รับผลกระทบและร้องเรียนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ยังคงเหมือนกับสถิติปี 2562 คือ เรื่องอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ จำนวน 381 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 36.11 ของจำนวนผู้ร้องเรียนทั้งหมด
เมื่อดูรายละเอียดของเรื่องร้องเรียนจะพบว่า หมวดอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ลักษณะปัญหาที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องโฆษณาอันเป็นเท็จหรือหลอกลวง ซึ่งมีมากถึง 137 เรื่อง มีทั้งการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง การแสดงสรรพคุณอันเป็นเท็จ แสดงที่ตั้งอันเป็นเท็จทำให้หลงเชื่อ
ทั้งนี้ ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหามากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลข อย. ผลิตภัณฑ์ที่ฉลากถูกสั่งเลิกใช้แล้ว และผลิตภัณฑ์ที่ฉลากไม่ครบถ้วน ไม่มีภาษาไทย
อันดับ 2 บริการสาธารณะ
ปัญหาจากการใช้บริการสาธารณะ มีผู้ร้องเรียน 353 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 33.46 โดยปัญหาการเลื่อน-ยกเลิกเที่ยวบิน เป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ปัญหาเรื่องรถโดยสารสาธารณะยังคงเป็นปัญหาที่ได้รับร้องเรียนมากที่สุด จำนวน 216 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องพนักงานประพฤติตัวไม่เหมาะสม และการชดเชยเยียวยาความเสียหายจากอุบัติเหตุรถโดยสาร ประเภทรถที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ รถตู้โดยสาร และรถโดยสารประจำทาง (รถทัวร์)
นอกจากนี้ ยังพบการร้องเรียนสายการบินจำนวน 128 เรื่อง โดยเป็นปัญหาเรื่องการเลื่อน-ยกเลิกเที่ยวบินถึง 124 เรื่อง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับมาตรการของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เช่น การประกาศเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ เป็นต้น ซึ่งสายการบินควรจะมีนโยบายการเลื่อน ยกเลิก และคืนเงินให้ผู้บริโภค เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาลด้วย
ทั้งนี้ ผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเลื่อน-ยกเลิกตั๋วสายการบินหรือทัวร์ สามารถอ่านรายละเอียดการร้องเรียน และดาวน์โหลดจดหมายได้ที่ เว็บไซต์มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
อันดับ 3 การเงินการธนาคาร
ปัญหาเรื่องการเงินการธนาคาร มีผู้ร้องเรียน 94 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 8.91 โดยปัญหามากกว่าครึ่งหนึ่งของหมวดการเงินการธนาคารเป็นการปรึกษาเรื่องหนี้บัตรเครดิต ซึ่งปัญหาที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ปัญหาเรื่องหนี้บัตรเครดิต ส่วนใหญ่ผู้บริโภคขอคำปรึกษาเรื่องการผิดนัดชำระ จนเกรงว่าจะทำให้ตนเองติดเครดิตบูโรหรือถูกฟ้องคดี เนื่องจากเมื่อมีการระบาดของ COVID-19 ประชาชนบางกลุ่มถูกให้ออกจากงานเพื่อลดภาระของบริษัท หรือบางบริษัทต้องปิดตัวลง ทำให้ไม่สามารถหาเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิตได้
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาธุรกิจเช่าซื้อยานพาหนะ ธุรกิจสินเชื่อ ที่ได้รับผลกระทบเรื่องการชำระหนี้ แม้รัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือโดยให้สถาบันการเงินบางแห่งพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้เป็นเวลา 3 เดือน แต่ก็ยังช่วยเหลือลูกหนี้ได้ไม่ทั่วถึง เนื่องจากผู้บริโภคบางรายมีหนี้สินกับหลายสถาบัน แต่การหยุดพักชำระหนี้ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด รวมถึงระบบการเยียวยาไม่ได้ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ ทำให้ปัญหาเรื่องหนี้สินของผู้บริโภคยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่การก่อหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้น
จากสถานการณ์ปัญหาของผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายผู้บริโภคได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้ว 693 เรื่อง หรือร้อยละ 65.69 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมดในช่วงไตรมาสแรก โดยเรื่องเฝ้าระวังสินค้าอันตรายออนไลน์ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA รวมถึงตลาดออนไลน์ต่างๆ (E-Market place) เช่น Lazada, Shopee ในการจัดการปัญหา หากมีเรื่องร้องเรียนหรือพบว่ามีร้านค้าขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย ตลาดออนไลน์ก็จะมีการตรวจสอบและดำเนินการนำสินค้านั้นออกจากหน้าเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น
ส่วนการแก้ไขปัญหาด้านอื่น เช่น บริการสายการบิน มพบ. และเครือข่าย ได้ประสานงานกับทางบริษัท เพื่อให้ยกเลิกและคืนเงินให้กับผู้บริโภค
ที่มา: www.consumerthai.org
สนับสนุนโดย