แม้ว่าเราพอจะอนุมานถึงอนุภาคและอันตรายจากยาทาเล็บได้จากกลิ่นที่เหม็นฉุนแรงกันอยู่แล้ว
แต่รายงานทางวิชาการเกี่ยวกับสุขภาพ ฉบับเดือนมกราคม 2016 ของ ‘Environment International’ ได้ศึกษาและรายงานเกี่ยวกับอันตรายที่ยาทาเล็บฝากไว้ ระบุว่า
เก็บตัวอย่างจากผู้ที่ใช้ยาทาเล็บทั้งหมด 24 คน พบว่าภายใน 10 ชั่วโมงหลังการทาเล็บ สาวๆ ทั้ง 24 คน มีสารตกค้างที่ชื่อ ‘ไตรเฟนิลฟอสเฟต’ (triphenyl phosphate) อยู่ในร่างกาย คุณสมบัติของสารดังกล่าวมีผลไปรบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ โดยที่ต่อมไร้ท่อจะเป็นโปรแกรมควบคุมการทำงานของฮอร์โมน กระบวนการเมตาบอลิซึม รวมทั้งระบบการสืบพันธ์ุและการเจริญเติบโต ในอีกทอดหนึ่ง
หมายความว่า ยาทาเล็บมีผลต่อระบบการเจริญเติบโตของร่างกาย
วิจัยสืบเนื่องจากข้อค้นพบนี้ คือการกลับไปทดสอบยาทาเล็บจำนวน 10 ยี่ห้อ ผลลัพธ์คือ 8 ใน 10 พบสารไตรเฟนิลฟอสเฟตตกค้าง ขณะที่อีกสองยี่ห้อไม่พบสารพิษดังกล่าว หากข้อกังขาที่ตามมาคือ แม้ผลวิจัยยาทาเล็บสองยี่ห้อดังกล่าวจะให้ผลลัพธ์ที่น่าชื่นใจ แต่ยาทาเล็บสองขวดนั้นก็ไม่ได้แสดงรายชื่อสารเคมีที่ใช้ผลิต ซึ่งอาจตั้งข้อสรุปแบบร้ายๆ ได้ว่า
“20 เปอร์เซ็นต์ของยาทาเล็บที่วางจำหน่าย อาจผสมสารเคมีที่ไม่ได้แสดงที่มา และอาจไม่ใช่สารเคมีที่ทางการรับรองให้ใช้ได้!”
สำหรับวัยรุ่นทั่วโลก
นี่คือลิสต์ที่นักวิชาการฝากไว้ประกอบการพิจารณา
พวกเขาเห็นว่า ยาทาเล็บอาจส่งผลกระทบให้ร่างกายทำงานผิดปกติ จนส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
– Neurotoxin คือพิษที่อาจส่งผลต่อระบบประสาท
– Endocrine Toxin พิษที่ส่งผลต่อต่อมไร้ท่อ
– Reproductive Toxin พิษที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธ์ุ
– อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และโรคภูมิแพ้ได้
อ้างอิงข้อมูลจาก: realfarmacy.com