13 สิงหาคม 1942 มีการก่อตั้งโครงการแมนฮัตตัน (The Manhattan Project) เป็นชื่อรหัสโครงการลับในการพัฒนาและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสหราชอาณาจักรและแคนาดาคอยให้การสนับสนุน โครงการดังกล่าวนำการวิจัยโดยนักฟิสิกส์ทฤษฎีชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) ดำเนินการภายใต้การดูแลของนายพลเลสลี่ โกรฟส์ (Leslie Groves) ในห้องปฏิบัติการณ์ลอสอาลามอส (Los Alamos Laboratory) รัฐนิวเม็กซิโก


ย้อนกลับไปในปี 1939 ‘จดหมายไอน์สไตน์-ซีลาร์ด’ ได้ถูกเขียนขึ้นโดย ลีโอ ซีลาร์ด (Leo Szilard) กับ ยูจีน วิกเนอร์ (Eugene Wigner) และมี อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) ร่วมลงนามรับรอง โดยมีข้อเรียกร้องให้สหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดี แฟรงกลิน เดลาโน โรสเวลต์ (Franklin D. Roosevelt) จัดหาและพัฒนาคลังสำหรับจัดเก็บยูเรเนียม และเร่งการวิจัยเกี่ยวกับระเบิดชนิดใหม่อันทรงพลัง เพราะเหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างกังวลว่า นาซีเยอรมันอาจกำลังพัฒนาอาวุธดังกล่าวนี้อยู่เช่นเดียวกัน

photo: Atomic Archive

photo: Atomic Archive

photo: The Nobel Prize
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 1945 โครงการแมนฮัตตันได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบระเบิดลูกแรกที่มีชื่อว่า ‘ทรินิตี้’ (Trinity) ในรัฐนิวเม็กซิโก และหลังจากนั้นไม่กี่เดือนต่อมา ประธานาธิบดี แฮร์รี เอส. ทรูแมน (Harry S. Truman) ได้อนุมัติการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ที่ชื่อ ‘ลิตเติลบอย’ (Little Boy) และ ‘แฟตแมน’ (Fat Man) เพื่อโจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นในเมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) และนางาซากิ (Nagasaki) ในวันที่ 6 สิงหาคม และ 9 สิงหาคม 1945 ตามลำดับ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว แม้ว่าจะทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในที่สุด ทว่ากลับได้พรากชีวิตพลเรือนทั้ง 2 เมืองไปกว่า 110,000-210,000 ราย โดยยังไม่นับรวมเหล่าพลเรือนที่เสียชีวิตในภายหลังจากการได้รับผลกระทบจากกัมมันตรังสีที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากการระเบิดอีกหลายหมื่นคน