‘ส่งรักถึงให้สภา’ ยื่นรายชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ. #นิรโทษกรรมประชาชน

“แม่กับเพื่อนๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่โดนคดีหลายคดี ก็คาดหวังมากกับการนิรโทษกรรมประชาชน แม่รวบรวมรายชื่อเพื่อนๆ จากเชียงใหม่เพื่อเอามาให้ที่งานนี้เลย

“เอาอย่างนี้นะ แม่เป็นคนที่ร่วมเรียกร้องมาตั้งแต่เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 นะ เคยเข้าร่วมกับ พคท. พูดกันตรงๆ ตอนนี้ถึงจะไม่ได้ฆ่ากันตู้มๆ เหมือนสมัยนั้น แต่มันก็แทนที่ด้วยความอำมหิตของนิติสงครามที่ทำกับประชาชน พอประชาชนเรียกร้องกันทีก็ยัดข้อหา

“บรรยากาศความขัดแย้งระลอกใหม่ทางการเมืองตอนนี้มีผลกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ในสภาแน่นอน

“แม่บอกตัวเองว่า เมื่อถึงเวลาจะตายมันก็ต้องตาย แต่ตอนนี้ในเมื่อบ้านเมืองมันเป็นอย่างนี้ แล้วชีวิตของเรายังไม่เห็นแสงสว่าง สังคมไม่ได้ดีขึ้น ทั้งที่เราต่อสู้มาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น จนตอนนี้ทำไมมันเหมือนย่ำอยู่ที่เดิม แต่แม่ยังไม่สิ้นหวัง ถ้าแม่สิ้นหวังแม่คงไม่มา

“ชีวิตคนไทยมันกะรุ่งกะริ่งก็เพราะรัฐไทยไม่เคยเห็นคุณค่าของประชาชนที่เสียภาษีให้พวกมันอยู่สุขสบายกันอย่างทุกวันนี้”

เสียงจาก ‘แม่ติ๋ว’ นักกิจกรรมจากเชียงใหม่ที่ร่วมต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมมาตั้งแต่ 6 ตุลาคม 2519 เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ช่วงหลายปีที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของแม่ติ๋วและเพื่อนๆ ทำให้มีคดีติดตัวไม่ต่ำกว่า 5-6 คดี

“สำหรับความคาดหวัง แม่ว่า 50/50 เพราะท่าทีของรัฐบาลก็ไม่โอเคกับเราอยู่แล้ว รัฐบาลก็อยากเอาคนของเขาออก แล้วคนของเราที่ติดอยู่ตอนนี้ล่ะ ทำไมคุณไม่เท่าเทียม อย่าสองมาตรฐาน

“กระแสความขัดแย้งมันเยอะอยู่แล้ว ช่วงนี้ทะลุวังก็มาแรง สงสารน้องๆ เขาทำด้วยใจ ไม่ได้มีใครมาหนุนหรืออยู่เบื้องหลัง

“แม่ว่ากระแสความขัดแย้งมันก็มีส่วนนะ รัฐบาลคงจะไม่ร่วมกับเราอยู่แล้ว ก้าวไกลคนเดียวทำอะไรเขาไม่ได้ เรามันฝ่ายค้าน เขาฝ่ายรัฐบาล ก็รอดูท่าทีของรัฐบาลก่อนว่าวันนี้เขาจะออกมาหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ออกมาก็ตามนั้น”

เสียงจาก ‘ยุพิน’ ผู้มาร่วมกิจกรรม ‘ส่งรักถึงให้สภา ถามหาความยุติธรรม เพื่อนิรโทษกรรมประชาชน’

“ถ้าถามว่ามีความหวังมากน้อยแค่ไหนที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน จะผ่านสภา ก็ไม่ได้หวังมากหรอกค่ะ แต่ก็มาให้กำลัง ถ้ามันผ่านได้ก็โอเค ถ้าผ่านไม่ได้ก็คงต้องสู้กันต่อ

“ท่าทีของรัฐบาลเขาไม่สนใจเลย เหมือนเขาเข้ามาเอาผลประโยชน์ ก็รู้สึกไม่โอเคกับท่าทีของเขา

“เรื่องความขัดแย้งหลายๆ อย่าง ตอนนี้เห็นว่าปล่อยให้เด็กรุ่นใหม่เขาสร้างอนาคตของเขาดีกว่า เขาอยากได้อะไรให้เขาพัฒนา และทำให้ประเทศเรามันเจริญขึ้นเถอะ เพราะว่าเราอายุเยอะแล้ว ความคิดก็ช้าลง ถ้าได้พึ่งคนหนุ่มสาวมันจะยิ่งไปไกล

“พวกนักอนุรักษนิยมมักจะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ แล้วกระแสความขัดแย้งในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาน่าจะส่งผลกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ด้วย”

เสียงจาก ‘คิมดาลี’ เดินทางมาจากสมุทรสาคร เพื่อร่วมลงชื่อผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน และร่วมกิจกรรมส่งรักให้ถึงสภา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการผลักดันแคมเปญนิรโทษกรรมประชาชน

“ผมมีความหวัง ถ้าไม่มีความหวังผมคงไม่มา เราต่อสู้มาเยอะก็จริง แต่ผมก็มีความหวังเสมอ ยิ่งกับการนิรโทษกรรมก็คาดหวังมาก ประชาชนเขาเรียนรู้ว่ากฎหมายบางตัวมันสามารถที่จะลดหย่อนได้ หรือกฎหมายบางตัวมันล้าหลัง มันไม่เหมาะกับประเทศไทยแล้ว เพราะฉะนั้นการนิรโทษกรรมมันเป็นทิศทางที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศ

“สำหรับรัฐบาล ในความคิดผมตอนนี้เหมือนมาเพื่อผลประโยชน์ แต่แน่นอนผมก็ยังมีความหวัง อยากให้ทุกคนที่โดนคดีทางการเมืองได้รับการประกันตัว แล้วก็จะต่อสู้ต่อไป ผมเชื่อว่าการนิรโทษกรรมประชาชนแม้จะดูเป็นไปได้น้อยก็ตาม แต่เราก็จะสู้ต่อไป ในวันข้างหน้ามันต้องเป็นไปได้

“กระแสความขัดแย้งในสังคมตอนนี้น่าจะส่งผลกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในสภาด้วย ก็ต้องยอมรับความจริงว่าคดี 112 หรือเรื่องที่เพิ่งผ่านมาในสัปดาห์นี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เด็กก็ขอโทษแล้ว เด็กเขาหยุดแล้ว ผู้ใหญ่ก็ต้องหยุดด้วย อย่าไปก่อไฟอีก”

เสียงจาก ‘มะเดี่ยว’ ผู้มาร่วมกิจกรรม ‘ส่งรักถึงให้สภา ถามหาความยุติธรรม เพื่อนิรโทษกรรมประชาชน’