ก่อนจะกลายหายกลืนผืนดินกลบ
ก่อนร่างซบจบลงตรงจุดเริ่ม
ก่อนที่รัตติกาลคลานสู่เดิม
ก่อนท้องฟ้าจะเพิ่มเติมแสงดาว
ชีวิตวัยใกล้แหลกจวนแตกดับ
ยังคอยนับ วัน เดือน ปี ปากพร่ำกล่าว
สิ่งเที่ยงแท้แน่นอนมิยืนยาว
คือ ดำ-ขาว สูง-ต่ำ ยังย้ำเตือน
บทกวีสีเทาเข้าสู่ลึก
ยิ่งลิ้มลองตรองตรึกรสฝาดเฝื่อน
ขมและปร่าทว่ามันมิเคยเลือน
สกปรกเปรอะเปื้อนบนเรือนกาย
เต็มและเติมข้นเข้มจนเต็มแน่น
ทั่วทั้งแผ่นผิวหนังทุกเอ็นสาย
บีบและเค้นจนพลั่งน้ำตาพราย
คล้ายความตายกรายเยื้องเบื้องหน้านั้น
แสนเจ็บปวดเหมือนหวดแส้แล้วแล่เนื้อ
หั่นแล้วเถือเนื้อหนังทุกครั้งสั่น
เป็นเช่นนี้เนิ่นนานทุกวารวัน
เจ็บเกินกลั้นหวั่นผวาอยู่อาจิณ
ก่อนจะกลายหายกลืนผืนดินกลบ
ก่อนร่างซบจบลงตรงเถื่อนถิ่น
ก่อนวิญญาณถูกไฟผลาญตรงลานดิน
ก่อนเถ้าสิ้นมลายกับสายลม
ไปเถิดพัดลิ่วลอยคล้อยคล้อยเคลื่อน
วัน ปี เดือน เลื่อนไหลอย่าไห้ห่ม
มิเสียดายกายหยาบ บาป ความตรม
แม้ขื่นขมจะล้มตายอย่างดายเดียว!
สันดุสิทธิ์ ประเสริฐสังข์