ฉันจัดแจกันดอกไม้อยู่ข้างหน้าต่าง
มองรูปที่ฉันตั้งใจนำมาตกแต่งห้องเขียนหนังสือ
คือเธอ, เวอร์จิเนีย วูล์ฟ ผู้ปวดร้าวจากสงคราม
เธอเกิดวันเดียวกันกับฉันจนฉันหลงคิดไปว่า
ฉันน่าจะเป็น มิสซิส ดัลโลเวย์* เสียเอง
ฉันมีห้องส่วนตัว* ของฉัน
ด้วยประโยควรรคทองที่ว่า
“ผู้หญิงต้องมีเงินและห้องที่เป็นของตนเองถ้าจะเขียนนวนิยาย”
ทำฉันหดหู่และเศร้าสร้อย จากความยากไร้
สิ่งที่ฉันพยายามเขียน
เหมือนสะพานที่จะพาฉันข้ามจากโลกหนึ่งไปอยู่อีกโลกหนึ่ง
ฉันอยากเขียนจดหมายถึงไรเนอร์ มาริอา ริลเค*
ฉันจะถามเรื่องการเขียนอันโดดเดี่ยวของผู้คน
จะถามถึงเส้นทางอันแปลกประหลาดแห่งโลกสมัย
ฉันจะหายหิวจากถ้อยคำเหล่านี้หรือไม่
ด้วยโลกแห่งการอ่านเขียนได้เปลี่ยนวรรคตอน
ฉันควรทำอย่างไร
เพื่อจะพานวนิยายทั้งหมดไปสู่เด็กๆ ที่ฉันรัก
บทกวีดอกไม้ของฉันจะหอมรัญจวนในบ้านของคนอื่นๆ
ตอบฉันที ไรเนอร์ มาริอา ริลเค
ริมหน้าต่างที่ฉันปรารถนาจะวางจานชามเพื่อแบ่งปันอาหารให้แก่คนอื่น
แขกผู้รับเชิญจะได้ดื่มกินบทกวีและตัวอักษร
อันได้บอกเล่าชีวิตของฉัน, โลกของฉัน
ฤดูใบไม้ผลิเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ต้นไม้เปลี่ยนแปลง
ผู้คนเปลี่ยนแปลง
คนรักและคนไม่รัก ของฉันเปลี่ยนแปลง
การอ่านเปลี่ยนแปลง
ฉันไม่อาจพูดได้ว่า
การเขียนของฉันไม่เปลี่ยนแปลง
สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง
อาจมีเพียงเล็กน้อย
เช่น ดวงตาสีน้ำเงินอันเปล่งประกายของแมวตัวหนึ่ง
รอยยิ้มของเด็กน้อย
ดอกไม้สีขาว
ไม่มีอะไรมากไปกว่าวงล้ออันได้เคลื่อนผ่านไป
สิ่งที่ฉันหวังว่าจะคงอยู่เสมอ
ตอนที่ใครบางคนพบเห็นตัวหนังสือสักคำหนึ่งของฉัน
แม้มิอาจกล่าวได้ว่า เนิ่นนานไปกว่านี้
ฉันจะอยู่ที่ตรงไหน
ข้างหน้าต่างหรือแจกันดอกไม้แสนสวย.
ปันนารีย์
*มิสซิส ดัลโลเวย์ และ ห้องส่วนตัว ชื่อผลงานของ เวอร์จิเนีย วูล์ฟ นักเขียนสตรีชาวอังกฤษ
*ไรเนอร์ มาริอา ริลเค กวีและนักเขียน ผู้เป็นเจ้าของผลงาน จดหมายถึงกวีหนุ่ม
สนับสนุนวรรณกรรมไทย โดย
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย
และ สำนักพิมพ์แสงดาว