เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2023 รัฐบาลฝรั่งเศสนำโดย เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดี อาศัยอำนาจพิเศษตามมาตรา 49.3 ในรัฐธรรมนูญ บังคับใช้แผนปฏิรูปเงินบำนาญ และการขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 64 ปี โดยไม่ผ่านการลงมติในรัฐสภา จนสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนและเกิดการประท้วงบนท้องถนนขนานใหญ่
รัฐบาลของมาครงพยายามปรับปรุงระบบบำนาญของฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 2019 เพื่อยืดระยะเวลาในการจ่ายเงินให้แก่ประชาชน และทำให้มีเงินสมทบในกองทุนบำนาญเพิ่มขึ้น แต่ต้องเผชิญปัญหาการนัดหยุดงานประท้วงทั่วประเทศ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลจึงต้องพับแผนการดังกล่าวไป
หลังโควิด-19 รัฐบาลพยายามผลักดันแผนปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญอีกครั้ง โดยอ้างเหตุผลทางการคลัง แต่ก็ต้องเผชิญกับการประท้วงนอกสภาขนานใหญ่หลายระลอก ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 1.1 ล้านคนทั่วประเทศ นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการประท้วงประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี (Nicolas Sarkozy) ผู้นำฝ่ายขวาในปี 2010 ที่มีนโยบายขยายอายุเกษียณจาก 60 ปีเป็น 62 ปี
หลังพรรคของมาครงไม่ได้รับเสียงข้างมากในสภาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 และไม่ได้รับการสนับสนุนจากแนวร่วมรัฐบาลกลุ่มอื่นๆ ทำให้รัฐบาลของมาครงหวังจะได้คะแนนสนับสนุนจากเพื่อนสมาชิกฝ่ายขวาจัดอย่างพรรค Les Républicains แต่เมื่อคาดการณ์แล้วว่า จำนวนสมาชิกดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะเอาชนะโหวต รัฐบาลจึงตัดสินใจใช้ ‘อำนาจพิเศษ’ ตามมาตรา 49.3 เพื่อเลี่ยงการลงมติในรัฐสภา
ประชาชนนับพันจึงรวมตัวกันประท้วงการใช้อำนาจดังกล่าวของรัฐบาล ณ บริเวณจัตุรัสกงกอร์ด (Place de la Concorde) ฟิลิปป์ มาร์ติเนซ (Philippe Martinez) หัวหน้าสหภาพแรงงานฝรั่งเศส (CGT) เตือนว่าจะยกระดับการหยุดงานและเดินขบวนประท้วง พร้อมกล่าวว่า การบังคับผ่านกฎหมายของรัฐบาลคือการดูหมิ่นประชาชน
ขณะเดียวกัน ส.ส. พรรคฝ่ายค้านที่เป็นฝ่ายซ้าย ร่วมกันร้องเพลงชาติฝรั่งเศสอย่าง ลา มาร์เซยแยส (La Marseillaise) ในรัฐสภา เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย และตะโกนคำว่า “ลาออกไปซะ!” ซ้ำๆ พร้อมทั้งโจมตีว่า การกระทำของรัฐบาลโหดร้ายและไม่เป็นประชาธิปไตย ในขณะที่ เอลิซาเบธ บอร์น (Elisabeth Borne) นายกรัฐมนตรี กำลังจะแถลงในรัฐสภา
จากการลุกฮือของประชาชน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสใช้แก๊สน้ำตา รถฉีดน้ำแรงดันสูง และตำรวจควบคุมฝูงชน เข้าสลายการชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ชุมนุมมีการขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ เผาและทำลายร้านค้าริมถนน แม้จะมีการจับกุมผู้ประท้วงได้ 120 คน แต่การประท้วงก็ลุกลามขึ้นในเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปารีส มาร์เซย น็องต์ แรนส์ และลียง
ทั้งนี้ สถานการณ์ทางการเมืองของฝรั่งเศสที่ถูกจุดชนวนด้วยแผนปฏิรูประบบบำนาญยังไม่มีท่าทีจะสงบลงง่ายๆ เมื่อพรรคฝ่ายค้านพยายามเรียกร้องให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจภายใน 24 ชั่วโมงนี้ และสหภาพแรงงานกำลังนัดประท้วงใหญ่ในวันที่ 23 มีนาคมที่จะถึง
ที่มา
- Macron uses special powers to force through plan to raise pension age
- พิษสังคมสูงวัย แรงงานฝรั่งเศสประท้วงแผนปฏิรูปเงินบำนาญ เหตุรัฐบาลขยายอายุเกษียณ-ยื้อเวลาจ่ายเงินคืน