#ม็อบ20มีนา
#REDEM
การชุมนุมใหญ่ ณ ท้องสนามหลวง วันที่ 20 มีนาคม 2564 เวลา 18.00-21.00 น. จัดขึ้นโดยกลุ่ม REDEM ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของมวลชนหลากหลายกลุ่ม กิจกรรมหลักที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ ได้แก่ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์, กิจกรรมเต้นเพื่อปลดปล่อยความอัดอั้น ‘แค่ขยับเท่ากับปฏิรูป’ โดยกลุ่มศิลปะปลดแอก – FreeArts, พับจรวดร่อนจดหมาย ‘จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์’ ส่งไปถึงรั้ววัง และอื่นๆ บนคอนเซ็ปต์ที่ว่า ‘สนามหลวง’ จักต้องเป็น ‘สนามราษฎร์’
การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อกังวลว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมหรือไม่ เช่นเดียวกับเสียงทัดทานจากหลายกลุ่มว่า การชุมนุมครั้งนี้ตรงกับวันสอบ GAT/PAT ของนักเรียนชั้น ม.6 ทั่วประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจำนวนมวลชน แต่การชุมนุมยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากเป็นข้อยุติที่ได้จากการโหวตร่วมกันของประชาชน
3 ข้อเรียกร้องจาก REDEM
การชุมนุมเคลื่อนไหวของ REDEM ประกอบด้วย 3 ข้อเรียกร้องหลัก ได้แก่
1. จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์ เนื่องจากปัจจุบันกษัตริย์มีอำนาจล้นเกินจนใกล้เคียงกับระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
2. ขับไล่ทหารออกจากการเมือง
3. รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ตัดงบทหารและงบสถาบันกษัตริย์ที่สิ้นเปลืองและไม่จำเป็น เพื่อนำไปสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าตั้งแต่เกิดจนตาย
กลุ่มเยาวชนปลดแอก – Free YOUTH หนึ่งในแนวร่วมผู้ให้การสนับสนุน REDEM ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊คว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรต้องมีการเคลื่อนไหวในห้วงสัปดาห์นี้ เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศไทยอยู่ในสภาพเลวร้าย นักกิจกรรมหลายคนสูญเสียอิสรภาพ และผู้ร่วมกันสนับสนุนแทบทั้งหมดกำลังจะทยอยเข้าคุก รวมถึงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญถูกล้ม ทั้งหมดนี้อาจนำประเทศไปสู่ความล่มสลายไม่ช้าก็เร็ว
“เราเข้าใจดีต่อความย่ำแย่ของระบบการศึกษาไทยที่ไม่ได้ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง เพราะสมาชิกของ Free YOUTH นั้นจำนวนมากคือนักเรียนมัธยมต้น และมัธยมปลาย นิสิต/นักศึกษา มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว แต่ความล้มเหลวของระบบการศึกษาหลายประเทศทั่วโลก มักมีรากฐานมาจากระบอบการปกครอง เพราะระบอบการปกครองย่อมหวังให้ประชาชนเชื่อในวิถีทางแบบที่เขาปกครอง การจะเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาที่แท้จริง รากฐานนั้นมาจากการที่ประเทศเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ การศึกษาของประเทศนั้นจึงจะสามารถพัฒนาไปสู่การยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” แถลงการณ์ระบุ
บุกค้นสำนักนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการชุมนุมจะเริ่มต้นขึ้น มีรายงานว่า ตำรวจนำหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี บุกเข้าสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เพื่อยึดหนังสือ สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย ที่เรียบเรียงเนื้อหาจากคำปราศรัยของ นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ในกิจกรรมชุมนุม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย’ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้จัดกิจกรรมชุมนุมนัดหมายกันว่า จะมีการนำหนังสือเล่มดังกล่าวมาแจกจ่ายให้แก่ผู้เข้าร่วมชุมนุมที่สนามหลวง จำนวน 10,000 เล่ม โดยกลุ่มเพื่อนอานนท์จะจัดกิจกรรมชวนอ่านหนังสือพร้อมกันในเวลา 19.19 น.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตำรวจจะพยายามใช้อำนาจบุกค้นและยึดหนังสือไปแล้วก็ตาม แต่ในโลกสมัยใหม่ประชาชนผู้ใฝ่หาประชาธิปไตยยังสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาหนังสือฉบับดังกล่าวได้ในรูปแบบไฟล์ PDF ผ่านเพจเฟซบุ๊ค เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH
ทลายกำแพงตู้คอนเทนเนอร์ เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม
17.40 น. มวลชนเริ่มเดินทางเข้าสู่พื้นที่สนามราษฏร์ ผู้ชุมนุมทั้งเยาวชน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ร่วมกันทำกิจกรรมหลากหลายตามอัธยาศัย ทั้งเซิร์ฟสเก็ต เล่นว่าว เล่นไพ่ UNO เพื่อแสดงออกว่า ‘สนามหลวง’ คือ ‘สนามราษฎร์’
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาวางเป็นแนวกั้นสูงตระหง่านเหนือพื้นที่อันเคยเป็นพื้นที่สาธารณะ แต่ไม่นานกำแพงตู้คอนเทนเนอร์ก็ถูกพ่นสีสเปรย์ทับด้วยข้อความและศิลปะกราฟฟิตี้
กิจกรรมหลักของวันนี้คือ การพับจรวดร่อนจดหมายข้ามรั้ววังยังไม่ทันเกิดขึ้น จนกระทั่งเวลา 18.45 น. ตู้คอนเทนเนอร์ตู้แรกก็ถูกมวลชนโค่นลงมา
19.05 น. ทันทีที่กำแพงตู้คอนเทนเนอร์ถูกทลายลง เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนผู้ชุมนุมห้ามรุกล้ำและขู่ว่าจะจับกุม จากนั้นมีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งจากฝั่งเจ้าหน้าที่ มีกลุ่มควันพวยพุ่งและกลิ่นคละคลุ้งคล้ายสารเคมี รวมทั้งมีการฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ ขณะที่ผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยการตะโกน “I here too” “ปล่อยเพื่อนเรา”
19.20 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสารเคมีที่อาจปะปนอยู่ในละอองน้ำที่เจ้าหน้าที่ฉีด
19.30 น. บริเวณถนนราชดำเนินใน หน้าศาลฎีกา เจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจากแนวกั้นของตู้คอนเทนเนอร์ เตรียมเข้าประชิดและกวาดจับผู้ชุมนุม มีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะ มีกลุ่มควันและกลิ่นแก๊สน้ำตาฟุ้งกระจาย ทำให้ผู้ชุมนุมต้องถอยร่นออกจากสนามหลวงมุ่งไปทางสะพานพระปิ่นเกล้า
19.45 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนตั้งแถวบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ พร้อมด้วยโล่และกระบอง รอคำสั่งเข้าปราบปรามประชาชน
19.50 น. รถขยายเสียงของผู้ชุมนุมประกาศยุติการชุมนุมและขอให้ทยอยเดินทางกลับบ้านไปทางสะพานพระปิ่นเกล้า และให้ระมัดระวังกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่อาจซุ่มอยู่บริเวณหลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังปักหลักประจัญหน้ากับเจ้าหน้าที่
20.05 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเริ่มกระชับพื้นที่ มีคำสั่งให้ใช้กระสุนยาง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกายได้ ฝ่ายผู้ชุมนุมตอบโต้ด้วยการขว้างปะทัดและขวดน้ำสวนกลับ
21.30 น. เกิดการปะทะบริเวณแยกคอกวัว ตำรวจยิงกระสุนยางเข้าใส่ ผู้ชุมนุมบางคนยิงหนังสติ๊กตอบโต้ ปาขวดเบียร์สู้ ส่วนที่เหลือตั้งแนวกั้นรับมือเจ้าหน้าที่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานการณ์ตึงเครียด เจ้าหน้าที่เข้ากดดันอย่างต่อเนื่อง และมีผู้ชุมนุมราว 5 คน ถูกจับกุมไว้ในรถควบคุมผู้ต้องขัง