แถลงการณ์ครอบครัว ‘วันเฉลิม’ ระบุ การหายตัวมีลักษณะเป็นอาชญากรรมต่อเนื่อง

หลังจากหายตัวไปในวันที่ 4 มิถุนายน ในวันนี้ก็เป็นเวลา 5 เดือนแล้วที่ข่าวคราวของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ มีชะตากรรมไม่ต่างจากตัวของเขา สาบสูญและเงียบงัน

สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิมได้ร่างแถลงการณ์ครอบครัวฉบับที่ 3 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 รายงานความคืบหน้าในการติดตามการถูกทำให้สูญหายของน้องชาย แถลงการณ์ระบุว่า การดำเนินการต่างๆ ในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับคดีได้รับความชะงักงัน ทั้งเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศกัมพูชาซึ่งสร้างข้อจำกัดในการสืบสวนสอบสวน รวมไปถึงเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้การติดต่อเดินทางระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก

แต่ทางครอบครัวได้ยื่นเรื่องเพื่อฟ้องศาลเพื่อให้มีการสืบสวนสอบสวนผ่านทางระบบตุลาการในประเทศกัมพูชานับตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว อัยการกัมพูชาได้อนุเคราะห์รับคดีดังกล่าวเพื่อดำเนินการสอบสวนตามกระบวนการ โดยดิฉันจำเป็นจะต้องไปให้ปากคำต่อหน้าศาลในเร็ววันนี้ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความคืบหน้า

ขณะที่ทีมงานทนายได้ตั้งข้อสันนิษฐานและสรุปแล้วว่าเหตุการณ์การสาบสูญไปของนายวันเฉลิม เกิดขึ้นโดยมีลักษณะเป็นอาชญากรรมต่อเนื่อง โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับผู้ลี้ภัยทางการเมืองจำนวน 8 รายที่หายสาบสูญและพบศพแล้วในประเทศลาวและเวียดนาม อนึ่ง เหยื่อผู้สูญหายและเสียชีวิตดังกล่าวนั้นล้วนแล้วแต่เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในไทย

ขณะที่ตัวแทนเครือข่ายญาติผู้เสียหายจากการทรมานและอุ้มหาย องค์กรเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชน ตัวแทนภาคประชาชนได้นัดพบกับรัฐมนตรี ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13:00 น. ที่ตึกสภาผู้แทนราษฎร (สผ) สภาผู้แทนราษฎร เกียกกาย เพื่อชี้แจงความจำเป็นเร่งด่วนในการเสนอให้รัฐมนตรีเร่งรัดนำร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …. ชื่อเดียวกันกับฉบับของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาให้ผ่านเป็นกฎหมายโดยไม่ชักช้าหรือเร็วที่สุดเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้ปราศจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงทั้งสองข้อหานี้ได้อย่างจริงจัง

ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …. ซึ่งอนุวัตการสำเร็จเรียบร้อยแล้วในวันที่ 17 กันยายน 2563 ตามที่เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 มีมติครม. ให้คณะกรรมการกฤษฎีกานำร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวให้ตรวจทานอีกครั้ง ทั้งๆ ที่นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ร่างกฎหมายของรัฐบาลได้ผ่านการตรวจแก้ไขทั้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหลายรอบแล้วก็ตาม โดยที่ขณะเดียวกันมีร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายซึ่งเป็นร่างพ.ร.บ. ที่เป็นชื่อเดียวกันเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรด้วยเป็นเวลาสามเดือนเศษมาแล้ว

แถลงการณ์ครอบครัว – ฉบับที่ 3

ในนามของสมาชิกครอบครัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ถูกทำให้สาบสูญในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าบ้านพักของตนเองกลางกรุงพนมเปญ กัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 17.00 น. เราขอรายงานความคืบหน้าของคดีและข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณชนดังนี้:

  • จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน คือวันนี้ เป็นเวลา 5 เดือนเต็มแล้ว สมาชิกครอบครัวของเรา รวมไปถึงเพื่อนของนายวันเฉลิมทุกๆ คน ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้นจากตัวเขา เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เป็นการยืนยันว่าเขาได้หายสาบสูญไปโดยเราไม่ทราบชะตากรรมแต่อย่างใด นอกจากนี้เรายังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากคนร้ายที่ลักพาตัวเขาไป ซึ่งทำให้เราสามารถตัดประเด็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการอุ้มเพื่อเรียกค่าไถ่
  • การดำเนินการต่างๆ ในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับคดีได้รับความชะงักงัน ทั้งเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศกัมพูชาซึ่งสร้างข้อจำกัดในการสืบสวนสอบสวน รวมไปถึงเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้การติดต่อเดินทางระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก
  • ทางครอบครัวได้ยื่นเรื่องเพื่อฟ้องศาลเพื่อให้มีการสืบสวนสอบสวนผ่านทางระบบตุลาการในประเทศกัมพูชานับตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว โดยทางอัยการกัมพูชาได้อนุเคราะห์รับคดีดังกล่าวเพื่อดำเนินการสอบสวนตามกระบวนการ โดยดิฉันจำเป็นจะต้องไปให้ปากคำต่อหน้าศาลในเร็ววันนี้ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความคืบหน้า
  • องค์กรระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภายุโรป องค์กรสํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ หรือ OHCHR ได้ดำเนินการต่างๆ เท่าที่จำเป็นในการสืบหาข้อมูลพยาน และออกแถลงการณ์เพื่อให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาไม่นิ่งเฉยต่อการดำเนินการ
  • สื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ดำเนินการทำสารคดีเชิงสืบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น The Reporters ของไทย BBC ของอังกฤษ และ Aljazeera English ฯลฯ ซึ่งทำให้เรื่องดังกล่าวได้รับการตีแผ่และได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป

นอกจากนี้เรายังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากพยานบางส่วนที่ออกมาให้ข้อมูล เนื่องจากมีความเห็นใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเราจำเป็นต้องปกปิดข้อมูลดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อแหล่งข่าว รวมไปถึงรูปคดี เรายังได้รับหลักฐานเพิ่มเติมในระหว่างนี้ และเราเชื่อว่าการเดินทางไปกัมพูชาในเร็ววันนี้เราจะสามารถได้หลักฐานชิ้นสำคัญๆ เพื่อเป็นเบาะแสชี้ว่าเหตุการณ์ร้ายแรงดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร

ทีมงานทนายได้ตั้งข้อสันนิษฐานและสรุปแล้วว่าเหตุการณ์การสาบสูญไปของ นายวันเฉลิม เกิดขึ้นโดยมีลักษณะเป็นอาชญากรรมต่อเนื่อง โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับผู้ลี้ภัยทางการเมืองจำนวน 8 รายที่หายสาบสูญและพบศพแล้วในประเทศลาวและเวียดนาม อนึ่ง เหยื่อผู้สูญหายและเสียชีวิตดังกล่าวนั้นล้วนแล้วแต่เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในไทย

การอุ้มหายนายวันเฉลิม ยังเป็นหนึ่งในเหตุผลทางการเมืองที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้ลุกฮือออกมาประท้วงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ ในฐานะครอบครัวของเหยื่อผู้สูญหาย เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสูงสุดต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของนายวันเฉลิม และเราขอส่งกำลังใจให้พวกท่านให้ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศมีเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพในหมู่พลเมืองโลก

อนึ่ง ดิฉันได้จัดตั้งกองทุนเพื่อรับบริจาคเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสืบสวนและดำเนินคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเดินทางไปกัมพูชานานนับเดือน และค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายสูงมาก โดยท่านสามารถช่วยเหลือได้ผ่านทางบัญชีธนาคารดังนี้

โอนเงินทางธนาคาร
ธนาคาร: Bangkok Bank
ชื่อบัญชี: Ms. Sitanun Satsaksit
เลขที่บัญชี: 024-7-12830-9
สาขา: PTT Raminthra – No. 340 Raminthra rd. Bangkok 10230 Thailand.
Swift code: BKKBTHBK.
ผ่านทาง PayPal
[email protected]

พวกเราขอเป็นกำลังใจและเป็นแนวร่วมให้กับทุกผู้ทุกนามที่ร่วมกันเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม ตามเจตจำนงของนายวันเฉลิมที่ฝากไว้บนเพจของตนเองว่า “ผมลี้ภัยจากประเทศไทยเพราะผมสนับสนุนประชาธิปไตย”

ขอแสดงความเคารพอย่างสูงสุด

น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า