Your Name จดหมายถึงคุณ

เรื่องและภาพ: สินี แสงอรุณศิริ

1

ฉันเขียนจดหมายถึงคุณในวันอาทิตย์ โตเกียวฝนตกมาตลอดสัปดาห์ วันนี้เป็นวันแรกที่อากาศดี เลยตัดสินใจนั่งรถไฟไปเที่ยวย่านโตเกียวที่คุณชอบใช้เป็นฉากในหนัง

ถ้าหนังของคุณเป็นเหมือนโปสเตอร์เชิญชวนมาเที่ยวโตเกียว ฉันคงต้องส่งคำร้องไปศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค เพราะภาพฉากในหนังคุณทำโตเกียวสวยเกินจริงไปหลายระดับ ฟันธงว่าคุณต้องชอบชินจุกุแน่ๆ เพราะตั้งแต่ 5 Centimeters Per Second จนถึงเรื่องนี้ ฉากของหนังคุณก็วนเวียนอยู่แถวเขตชินจุกุ ชิบุยะ และรอบสวนสาธารณะโยโยกินี่แหละ

หมายเหตุ: เนื่องจากมีการสปอยล์ขั้นสุดปรากฏอยู่ในข้อเขียนชิ้นนี้ ทางที่ดีคุณอาจจะอยากดูหนังเรื่องนี้ก่อนอ่านก็เป็นได้

5-cm
5 Centimeters Per Second

img_6678

 

ใน Kimi no Na wa หรือ Your Name สายรถไฟหลักที่ทาคิใช้คือสาย JR จูโอ-โซบุ (Chuo-Sobu) ผ่านสถานีชินจุกุ (Shinjuku) โยโยกิ (Yoyogi) เซนดากะยะ (Sendagaya) ชินะโนะมาจิ (Shinanomachi) และโยทสึยะ (Yotsuya) มีสถานที่หลายแห่งรอบๆ สถานีเหล่านี้ ถูกใช้อ้างอิงเป็นโลเคชั่นฉากในหนัง

ตอนที่ Kimi no Na wa เริ่มฉายในที่ญี่ปุ่นใหม่ๆ ฉันยังนั่งรถไฟสายจูโอไปทำงานทุกเช้า ระหว่างโดยสารก็จะเห็นโฆษณาบนรถไฟ โปรโมตว่าสถานีเหล่านี้ถูกใช้เป็นฉากของหนังคุณด้วยนะ! อย่าลืมแวะมาเที่ยวล่ะ! สมแล้วที่ญี่ปุ่นเป็นยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจอนิเมะ นอกจากจะขายหนังพ่วงการ์ตูนเล่ม นิยายและเพลงประกอบ ยังพ่วงสถานที่ท่องเที่ยวและตั๋วรถไฟด้วย… ทุนนิยมจงเจริญ!

แต่เพราะต้องนั่งรถไฟสายนี้ทุกเช้า ฉันจึงเกลียดรถไฟสายนี้สุดๆ การต้องโหนรถไฟสายจูโอในชั่วโมงเร่งด่วนไม่ต่างอะไรกับนรกบนดิน ไหนจะคนแน่นเป็นปลากระป๋อง เพิ่มเติมคืออุบัติเหตุระหว่างทางชวนให้ระทึกขวัญไม่เว้นวัน ตั้งแต่คนกระโดดฆ่าตัวตายให้รถไฟทับ เด็กประถมอ้วกบนรถไฟเพราะกินข้าวเช้าอิ่มเกิน (อันหลังเห็นมากับตา) ฯลฯ

ระหว่างที่ดูก็แอบเหน็บ (อย่างหมั่นไส้) ว่า โอ้ย รถไฟแน่นขนาดนั้น แหกขี้ตาตื่นตอนเช้ามาขึ้นรถไฟก็ทุลักทุเลเพียงนั้น ตอนเช้าจะมีใครมีเวลามาหาคู่แท้ในขบวนที่สวนกันแบบทาคิกับมิทสึฮะได้วะเนี่ย! ตอนฉากจะจบ สถานีโยโยกิรถไฟมันจะสวนรอกันแบบนั้นได้ด้วยเรอะ!! คนโตเกียวตัวจริงขึ้นรถไฟตอนเช้ามันต้องยืนหลับสิ!! ฯลฯ

แต่ในวันที่อากาศดีขนาดนี้ เราก็ปล่อยๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวกนั้นไป แล้วออกไปรับแดดในเมืองก็ได้

 

สถานีโยโยกิ
สถานีโยโยกิ

2

ฉันรู้จักหนังของคุณครั้งแรกในโปรแกรมฉายหนังคืนวันศุกร์ของเจแปน ฟาวน์เดชั่น

หนังที่ฉายคืนนั้นคือ 5 Centimetres Per Second เรื่องของอาคาริและทาคาคิ เด็กหญิงและเด็กชายสมัยประถมในโตเกียว แต่ก็ต้องจากกันเพราะต้องย้ายตามครอบครัว สาวน้อยไปอยู่โตจิกิ จังหวัดทางเหนือของโตเกียว ส่วนพ่อหนุ่มต้องไปอยู่คาโกะชิมะ สุดเกาะคิวชูที่อยู่ทางใต้ไปอีก

รักแรกมีอันต้องร้างลาเพราะระยะทางสะเทือนใจเสมอ แต่ตอนนั้นจะเศร้าก็เศร้าไม่ออก เพราะชายหนุ่มแถวหน้าเศร้านำฉันไปหลายขุม หลังสั่นระริกและเสียงฮึกฮักบอกได้ว่าเขากำลังกลั้นน้ำตาเต็มกำลัง

ตั้งแต่นั้นฉันเลยคิดว่าความรักของผู้ชายคงรสชาติเหมือนหนังคุณหรือเปล่านะ เมื่อย้อนกลับไปดูผลงานก่อนๆ ก็พบว่าคุณพกความฝันวัยเด็กของผู้ชายมาเทกระจาดในหนังเต็มไปหมด ทั้งไซ-ไฟ ยานอวกาศ ดวงดาว จักรวาล และรักแรก

ทว่า แม้หนังของคุณเต็มไปด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี แต่มันก็เหมือนกลอนญี่ปุ่นโบราณที่เคยอ่านสมัยเรียน

กลีบซากุระที่ร่วงหล่นใน 5 Centimetres เหมือนบทฤดูใบไม้ผลิในมังโยฉุ (Manyoshu) ที่บอกเล่าความไม่จีรังยั่งยืนของสรรพสิ่ง

พรหมลิขิตทำให้เราได้พบกัน ใช้เวลาร่วมกัน แต่ก็พร้อมที่จะผลักให้เราจากกันอย่างไม่ทันตั้งตัว และทำให้เราต้องตามหาใครสักคนเรื่อยไปไม่จบสิ้น

 

3

Kimi no Na wa อยู่ในโรงมาเกือบครบสี่เดือน กว่าฉันจะมีเวลาไปดู ฉันเลยได้ดูหนังก่อนจะเข้าไทยแค่สามวัน ทว่าจำนวนรอบหนังที่ญี่ปุ่นยังมีเยอะประหนึ่งหนังเพิ่งเข้าโรง และคงมีฉายไปถึงสิ้นปี!

เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของคุณที่ฉันได้ดูในโรงที่ญี่ปุ่น และเป็นเรื่องแรกของคุณที่ได้ฉายแบบทั่วประเทศไม่จำกัดโรงฉาย คุณเข้าสู่หนทางสายแมสเต็มตัว และผลก็คือคุณดังเป็นพลุแตก

อะไรที่ทำให้ Kimi no Na wa ประสบความสำเร็จขนาดนี้?

หนังสนุกมาก แม้จะสลับร่างและพาย้อนเวลาในเวลาเดียวกันแต่ก็ยังเข้าใจง่าย คุณเล่าส่วนที่คลิเช่ที่สุดของความรัก ให้กลายเป็นแฟนตาซี น่าติดตามจนฉากสุดท้าย ตอนแรกฉันนั่งหวาดเสียวว่าคุณจะเอาอุกกาบาตมาฟาดหน้าให้ทาคิตายตามกันไปอีกคน แต่คุณยอมปล่อยให้จบแฮปปี้เอนดิ้งซะงั้น

แต่ที่คุณยอมให้ทาคิกับมิทสึฮะได้พบกันในตอนท้าย อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาทำให้คนเราต้องพรากจากกันมากเกินไปแล้วก็ได้

ฉันไปเห็นบทสัมภาษณ์ของคุณตอนไปเปิดตัว Your Name ที่อังกฤษ คุณพูดถึงเหตุการณ์สึนามิ 3/11 (11 มีนาคม 2011) ด้วย คุณบอกว่าเวลานั้นทุกคนสวดมนต์ภาวนาให้ทุกๆ คนปลอดภัย แม้จะเป็นคนที่คุณไม่รู้จักกันเลย และคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องสะเทือนใจกับเหตุการณ์นี้ คุณก็เลยอยากจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมา – แม้จะฟังดูเป็นเรื่องโกหกพกลมก็ยอม – แต่เราก็ยังต้องมีความหวังในชีวิต

บทสัมภาษณ์ของคุณเลยยิ่งทำให้ Kimi no Na wa เป็นจดหมายรักของคุณถึงใครต่อใครที่โทโฮคุ เหมือนจดหมายของที่ทาคาคิส่งถึงอาคาริใน 5 Centimeters ที่สุดท้ายแล้วอาจไม่เกิดประโยชน์ใดๆ

แทนที่จะเป็นสึนามิที่โถมเข้าซัดฝั่ง คุณบันดาลเอาสะเก็ดดาวตกมาลงที่เมืองอิโตะโมะริในวันที่ 4 ตุลาคม – 10/4 สลับกันกับ 3/11 พอดี คุณเลือกใช้ความคิดของชินโตมาเป็นแกนเล่าเรื่อง เพราะชินโตเป็นศาสนาที่สร้างตำนานการกำเนิดเกาะญี่ปุ่น เราจึงผูกพันในฐานะเพื่อนร่วมชาติแม้จะไม่เคยเห็นหน้ากันเลย และคงมีผู้ชมในโรงจำนวนไม่น้อยที่ได้อ่านจดหมายรักฉบับนี้ คิดว่าหากย้อนเวลาได้

เขาคงจะกลับไปช่วยใครสักคนที่ฟุคุชิมะ

 

4

ศาลเจ้าสึกะ (Suga Jinja) เป็นสถานที่ที่มีบันไดที่ทาคิและมิทสึฮะเดินสวนกันในตอนจบของเรื่อง ลองเดินมาจากสถานีชินะโนะมาจิ ก็ยังงงๆ ว่าทาคิที่ลงสถานีชินจุกุ จะวิ่งมาเจอมิทสึฮะที่ลงจากสถานีเซนดากะยะกันตรงนี้ได้ยังไง คนส่วนใหญ่ที่มาศาลเจ้าก็น่าจะเป็นแฟนหนังทั้งนั้น ทุกคนถ่ายรูปบันไดกันอย่างเงียบๆ มีทั้งเพื่อนผู้ชายที่มาเป็นคู่ในหลายวัย (คิดว่าเป็นแค่เพื่อนกันนะ…คิดว่า) เพื่อนขี่จักรยานมาเป็นแก๊ง มีคู่รัก มีมาเป็นครอบครัว คนฉายเดี่ยวก็มี ต้นไม้ในศาลเจ้าผลัดใบเป็นสีส้มตามฤดูใบไม้ร่วง มีเสาไม้ตั้งตามราวบันไดเพราะศาลเจ้าจะมีงานเทศกาลบางอย่าง อาจจะคล้ายๆ กับงานเทศกาลต้นฤดูใบไม้ร่วงในวันที่สะเก็ดดาวตกเดินทางมาถึง

พระอาทิตย์คล้อยลงต่ำเร็วกว่าปกติเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว แสงส้มลอดไม้ระเรื่อ ฟ้าข้างหน้ามีสีอมเทาเพราะมีเมฆฝนอยู่ประปราย เริ่มเข้าใกล้เวลาพลบค่ำแบบที่คุณบรรยายไว้ในหนัง เวลาที่ไม่ใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน เวลาที่เส้นระหว่างความจริงและความฝันเลือนรางทำให้คุณได้พบกับคนที่คุณเฝ้ารอ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นเวลาที่ทำให้คุณต้องจากใครไป

อาจเป็นเวลาที่เราต้องแยกกัน อาจเป็นเวลาที่เราได้พบกัน

 

img_6681

img_6675

5

ฉันผนึกซองส่งจดหมายถึงคุณในคืนวันจันทร์ แล้วทิ้งตัวนอนตรียมตัวต่อสู้กับวันใหม่ แต่ในเวลาใกล้สาง ชั้นรู้สึกว่าเตียงสั่นไหวสะเทือน เสียงครืดคราดของเพดานดังจนฉันตื่นในความมืด มันดำเนินอยู่ไปอีกประมาณ 15 วินาที เมื่อฉันเห็นว่าทุกอย่างสงบลงแล้วฉันจึงงัวเงียคุดคู้ในผ้าห่มต่อ

เช้าแล้วแต่เมฆฝนทำให้ฉันไม่อาจลุกจากเตียงได้ ฉันเปิดทีวี และพบว่ามีแผ่นดินไหว 7.4 แม็กนิจูดโดยศูนย์กลางอยู่ที่ฟุคุชิมะ และมีความเสี่ยงจะมีสึนามิเข้าที่ฟุคุชิมะ อิวะเตะ อิบะระกิ และจิบะ ทีวีทุกช่องถ่ายทอดสดมวลน้ำทะเลที่กำลังไหลย้อนสู่ผืนสมุทร ผู้ประกาศข่าวทุกช่องประกาศถ้อยคำเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา: สึนามิ! สึนามิกำลังจะมา ขอให้ทุกท่านออกห่างจากชายฝั่ง ขึ้นสู่ที่สูง ผู้ชมที่เพิ่งตื่นนอนมารับชมโทรทัศน์ โปรดหนีโดยด่วน!

ฉันจึงเขียนจดหมายอีกฉบับถึงคุณบนรถไฟ ระหว่างไปทำงาน ฉันคิดถึงคุณ และอยากเขียนจดหมายรักถึงโทโฮคุภาวนาให้ทุกคนปลอดภัย

 


 หมายเหตุ: อ่านบทสัมภาษณ์ของ ‘คุณ’ ได้ ที่นี่

 

Author

น้ำหวานครึ่งแก้ว
โอแอล (office lady) ในประเทศญี่ปุ่น งานหลักคือทะเลาะกับคนญี่ปุ่นเพื่อแก้ภาษาญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นเขียน งานรองคืออยากเป็นนักเขียน บลอกเกอร์ตั่งต่าง แต่ทุกวันนี้ทำได้แค่เขียนสัญญา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า