เรื่อง: เวชะรดา มะเวชะ
เพราะพวกเขาเหล่านี้ต่างเล่นมันโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
Living the Game หนังสารคดีมันส์ๆ อีกเรื่องหนึ่งที่นำมาฉายโดยผู้นำเข้าเจ้าเก่าอย่าง Documentary Club
เรื่องราวของเกมเมอร์ระดับท็อปของโลกที่แฟน Street Fighter คงคุ้นเคยกันดีทั้ง อุเมฮาร่า ไดโกะ, โมโมจิ, เกมเมอร์บี, ลุฟฟี่ และ จัสติน หว่อง กว่าจะมาเป็นพวกเขาในวันนี้ ฮีโร่ผู้เดิมพันด้วยทั้งชีวิตที่มี ต่างคนต่างมาต่างไป แต่เป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียว เพื่อเป็นแชมป์ออฟเกมเมอร์ที่โลกต้องจารึกอย่างการแข่งขัน ‘Capcom Cup’ และชิงเงินรางวัลเกือบ 2 ล้านบาท!
เนื้อหาของเรื่องถ้าพูดสรุปย่อๆ แล้วก็คงเป็นแบบนี้ แต่เพราะความที่เป็น ‘หนังสารคดี’ แน่นอนว่าย่อมมีเบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละครที่น่าสนใจให้ได้ติดตามกัน โดยส่วนตัวแล้ว หนังเรื่องนี้นำเสนอได้ค่อนข้างที่จะครบรสและครอบคลุมทั้งในมิติของผู้เข้าแข่งขัน และผู้ที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเขาเหล่านั้นด้วย
การเป็นนักเล่นเกมอาชีพนั้นยาก เสี่ยง กดดัน และไม่มั่นคง การแบกรับหน้าที่รับผิดชอบและโดยเฉพาะ ‘ความคาดหวัง’ จากผู้คนรอบตัว ซึ่งนั่นก็ทำให้เราเห็นถึงความเป็นจริงที่ว่า การเล่นเกมนั้นไม่ได้เป็นที่ยอมรับของสังคมในตอนนี้สักเท่าไหร่
เพราะความไม่แน่นอนและบริบทของหลายประการ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ ‘เงิน’ เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงอาชีพนี้ แต่ถ้าพูดกันตามจริงแล้ว คนเราก็ทำงานหลักๆ เพื่อหาเงินเหมือนกันนี่ ถ้าอย่างนั้นพวกเขาเองก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากคนทั่วไป เพียงแต่เป้าหมายที่ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของคนอื่นเท่านั้นเอง
เมื่อไหร่เราจะได้แต่งงานกัน ได้มีลูก ฉันสงสัยว่าเราจะมีวันนั้นไหม?
– แฟนของโมโมจิ
หนังพาเราไปดูการตะกายดาวของ ‘โมโมจิ’ ที่เรียกได้ว่าทุ่มเททุกอย่างให้กับเกมจนแทบกระอักเลือด ทั้งการฝึกฝนและกำแพงที่ต้องก้าวผ่าน ความทะเยอทะยานที่จะก้าวขึ้นไปโมโมจิทำให้เรารู้จักถึงคำว่า ‘ยิ่งสูง ยิ่งหนาว’ ที่แท้จริงเป็นอย่างไร และแรงสนับสนุนรวมถึงกำลังใจจากคนที่รักนั้นสำคัญมากแค่ไหน
ต้องยอมรับว่าออกจะหมั่นไส้โมโมจินิดๆ ว่าอะไรมันจะทะเยอทะยานขนาดนั้น (ฟะ) พูดอีกอย่างคือ เป็นคนที่โหยหาความสำเร็จและการยอมรับมากโคตรๆ
แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งเขาก็ดูเป็นคนที่มีความพยายามดี…ดีมากเลยล่ะ แน่วแน่สุด ไปสุดทางจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวแฟนของเขา เราก็นับถือเลย คอยช่วยเหลือดูแลทุกอย่าง ราวกับทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อชายคนนี้ เป็นสาย sup (support) ที่แท้ทรู
ผมทุ่มเทเล่นเกม ทั้งที่รู้ว่ามันอาจไม่ดีต่อชีวิต ความรู้สึกขัดแย้งแบบนี้ทำให้ผมเจ็บปวด
– ไดโกะ อุเมฮาร่า
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ อุเมฮาร่า ไดโกะ พี่แกนอกจากจะเล่นเก่ง เล่นดี เล่นเทพแล้ว ทัศนคติก็ดีอีก เป็นคนที่สอนให้เรารู้ว่าความสุขในการทำสิ่งที่ชอบมีค่ามากจริงๆ
เป็นเซียนเกมไม่ใช่เพื่อให้ได้เงินร่ำรวย แต่มันคือศักดิ์ศรีและแทบจะบูชาชีวิตตัวเองให้ โดยเฉพาะตอนจบที่บริจาคเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันทั้งหมดให้กับมหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาเกม
ฉากนั้นความรู้สึกคือ oh my god! พี่เท่มาก! โคตรหล่อ โคตร cool ยอมใจพี่จริงๆ เป็นตัวละครที่ได้ใจเราไปเต็มๆ
เราเชื่อว่าหลายๆ คนเองก็เติบโตมากับการเล่นเกมเช่นกัน เราเองก็นับว่าติดเกมพอสมควร แต่หลังจากดูหนังเรื่องนี้นี่ยอมเลย เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้เห็นถึงสิ่งที่เป็น ‘ขั้นกว่า’ ของการเล่นเกม นั่นคือการทุ่มเทชีวิตและจิตวิญญาณ เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว นี่คือความฝันทั้งหมด และเขาพร้อมใจฝากอนาคตไว้ที่มัน ยิ่งไปกว่านั้นเราจะได้เห็นถึง ‘ความเป็นมนุษย์’ และความคลั่งไคล้อย่างหนักหน่วงซึ่งมีค่ามากกว่าเงินรางวัลใดๆ ทั้งปวง
หนังสารคดีอาจเป็นสิ่งที่คนบ้านเราอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินกันมากนักแต่สำหรับผู้ที่มีความสนใจหรือเริ่มต้นอยากจะดูหนังสารคดี Living the Game เป็นเรื่องหนึ่งเลยที่อยากจะแนะนำ เพราะนอกจากแก่นเรื่องที่สนุก (อย่างการเล่นเกม) การดำเนินเรื่องยังเข้าใจง่าย ไม่ได้ซับซ้อนเกินไปนัก แถมยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน อีกทั้งความเท่ของตัวละครในเรื่องก็น่าจะได้ใจหลายคนไปเต็มๆ
วันที่ 17 มิถุนายน เป็นการฉายรอบแรกของ Living the Game แม้ตอนนี้อาจจะมีโปรแกรมฉายเพียงไม่มาก แต่ก็สามารถติดตามรอบฉายต่อๆ ไป หรือหนังสารคดีชั้นเยี่ยมอื่นๆ อีกได้ทาง Facebook: Documentary Club
Author
