ดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev) อดีตประธานาธิบดีและรองประธานสภาความมั่นคงของสหพันธรัฐรัสเซีย โพสต์ข้อความลงใน Telegram เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า “ถ้ารัสเซียหยุดปฏิบัติการทางทหารโดยปราศจากชัยชนะ รัสเซียจะต้องสูญสลายไป ประเทศจะฉีกเป็นเสี่ยงๆ” และกล่าวโต้สหรัฐอเมริกาที่ให้การหนุนหลังยูเครนว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้สงครามยังดำเนินต่อไป หากเพียงสหรัฐหยุดสนับสนุนกำลังอาวุธให้กับรัฐบาลที่คีฟ (Kyiv) สงครามก็น่าจะยุติลงได้
การโพสต์ข้อความของเมดเวเดฟในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อตอบโต้และล้อไปกับสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ของสหรัฐอเมริกาที่กล่าวในการเยือนประเทศโปแลนด์ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา
ไบเดนกล่าวในสุนทรพจน์ว่า “ถ้ารัสเซียหยุดรุกรานยูเครน สงครามก็คงจะยุติลง แต่ถ้ายูเครนหยุดป้องกันตัวเองจากการรุกรานของรัสเซีย มันก็จะเป็นจุดจบของประเทศยูเครน” ซึ่งอดีตประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่าสิ่งที่ไบเดนกล่าวเป็นเพียง “คำโกหกที่ปรุงแต่งขึ้นมา” เท่านั้น
“ทำไมเขาถึงให้ความสนใจกับประชาชนของประเทศอื่นขนาดนี้ ในขณะที่ประเทศเขาเองก็เต็มไปด้วยปัญหาที่ต้องจัดการ เราจะตื่นตระหนกและตั้งใจฟังนักการเมืองจากประเทศศัตรูที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อแผ่นดินแม่ของเราไปทำไม ทำไมพลเมืองของรัสเซียถึงต้องเชื่อฟังประธานาธิบดีของสหรัฐ ผู้ซึ่งเป็นคนทำให้เกิดสงครามมากที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20-21 แต่กลับมาประณามเราว่าเป็นผู้ใช้ความรุนแรงเนี่ยนะ?” เขาย้ำในเรื่องนี้ และกล่าวเสริมว่าเป้าหมายของไบเดนคือการทำให้มั่นใจว่า “รัสเซียจะต้องประสบกับความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์”
เมดเวเดฟยังให้ความเห็นเกี่ยวกับแถลงการณ์ของปูตินในวันอังคารที่ผ่านมา ที่ตัดสินใจระงับข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐด้วยว่า “การตัดสินในในครั้งนี้จะส่งผลตามมาอย่างใหญ่หลวงต่อโลกของเราในภาพรวม และส่งผลเป็นพิเศษต่อสหรัฐอเมริกา”
“สุดท้ายแล้ว ชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลในการจะใช้กำลังอาวุธใดๆ ก็ตาม หากว่าสหรัฐอเมริกาจะต้องการให้รัสเซียพ่ายแพ้ แล้วกำลังนำเรามาสู่ความขัดแย้งระดับโลก” เขากล่าวต่อว่า “ถ้าสหรัฐอเมริกาต้องการจะกำราบรัสเซีย เราก็มีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวเองด้วยอาวุธชนิดใดๆ ก็ตาม ซึ่งรวมไปถึงนิวเคลียร์”
อ้างอิง:
Former Russian president says country “will be torn to pieces” if it loses war