วันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกตรวจเยี่ยมเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน สถานที่อันเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 (COVID-19) และได้ประกาศผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ด้วยพบตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยในเบื้องต้นไว้ได้แล้ว ความสำเร็จในเบื้องต้นนี้ทำให้สถานการณ์มีเสถียรภาพในมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่น
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ช่วงวิกฤติสูงสุดของการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไปจากเมืองอู่ฮั่น และดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทว่าปัญหาใหญ่ที่กำลังตามมา คือภูเขาขยะทางการแพทย์ที่กำลังส่งสัญญาณถึงเค้าลางหายนะทางระบบนิเวศ หากไร้มาตรการจัดการอย่างรัดกุม
อู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 สร้างขยะทางการแพทย์มากกว่าสถานการณ์ปกติถึง 6 เท่า
คือเสียงสะท้อนจากเจ้าหน้าที่เมืองอู่ฮั่นต่อสถานการณ์ขยะที่ล้นเมือง
เจ้า คุนหยิง (Zhao Qunying) รัฐมนตรีกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินกล่าวว่า
โรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่น มีขยะทางการแพทย์ถึง 240 ตันต่อวันในช่วงที่ระบาดหนัก เทียบกับสถานการณ์ปกติที่มีเพียง 40 ตันต่อวันเท่านั้น
แน่นอนว่านี่คือปัญหาใหญ่ ซึ่งทางรัฐบาลกลางของจีนได้ส่งศูนย์จัดการขยะทางการแพทย์เคลื่อนที่กว่า 46 แห่งไปยังเมืองต่างๆ และสร้างศูนย์จัดการขยะเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับขยะเพิ่มอีก 30 ตันภายใน 15 วัน รัฐมนตรีกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน กล่าวว่า “เราได้อัพเกรดศูนย์จัดการขยะอันตรายให้สามารถจัดการขยะทางการแพทย์ มาตรการนี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มจำนวนการจัดการขยะของเมืองจาก 50 ตันต่อวันให้เป็น 263 ตัน”
รัฐมนตรีกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ได้เจาะจงว่าเมืองไหนที่ขยะล้นหรือใกล้เต็มความจุ แต่การจัดการขยะทางการแพทย์ในจีน เป็นปัญหาที่มีมาเป็นเวลานานแล้ว ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2018 ระบุว่า มีการสร้างขยะทางการแพทย์กว่า 2 ล้านตัน ซึ่งในช่วงที่รัฐบาลแนะนำให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส ก็เป็นการเพิ่มจำนวนของขยะทางการแพทย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การระบาดใหญ่ครั้งนี้ได้แพร่เชื้อไปกว่า 80,000 คน มีผู้เสียชีวิตถึง 3,000 คน และกระจายไปกว่า 100 ประเทศ ซึ่งหลังผ่านพ้นช่วงวิกฤติสูงสุดของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น โจทย์สำคัญต่อมาคือวิธีการจัดการกับขยะทางการแพทย์
การกำจัดของเสียทางการแพทย์เป็นส่วนสำคัญของการต่อสู้กับการระบาด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้รัฐบาลเร่งสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่และการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีการบำบัดของเสีย
ตู้ หัวเจิ้ง (Du Huanzheng) ผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจรีไซเคิลแห่งมหาวิทยาลัยถงจี้ (Tongji University) กล่าว
การแพร่ระบาดของโควิด-19 คือตัวเร่งให้เกิดการเพิ่มขึ้นของขยะและของเสียทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจากจีนได้กล่าวว่า การเผายังคงเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการควบคุมจำนวนขยะที่เพิ่มขึ้น และความกังวลที่ตามมาคือเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
กรณีดังกล่าว สะท้อนคำถามถึงบ้านเราได้อย่างดี ว่าในสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศที่ข้อมูลยังคงคลุมเครือเช่นนี้ มีมาตรการรับมือกับสถานการณ์ที่จะตามมาอย่างไร
อ้างอิง
https://www.scmp.com |
สนับสนุนโดย