ช่างภาพเจ้าของผลงาน ‘Napalm Girl’ นิค อึ๊ต ประกาศวางมือ

ภาพจำสำคัญภาพหนึ่งของสงครามเวียดนามคือ ‘Napalm Girl’ รูปถ่ายเด็กหญิงเปลือยกายวิ่งหนีเปลวเพลิงจากระเบิดนาปาล์ม ภาพนี้เป็นฝีมือของ นิค อึ๊ต

เมื่อยังเด็ก Huynh Thanh My พี่ชายของ Huynh Cong Ut – นิค อึ๊ต ซึ่งเป็นดาราเคยบอกว่า นิคมีแววเป็นนักแสดง ไม่นานจากนั้น Huynh Thanh My ถูกว่าจ้างโดย AP ให้เดินทางพร้อมทหารกลุ่มหนึ่ง ทั้งหมดเสียชีวิตจากการเข้าปะทะของเวียดกงในปี 1965

ในงานศพพี่ชาย นิคพบกับ ฮอร์สต ฟาสส์ (Hosrt Fass) ช่างภาพสองรางวัลพูลิตเซอร์ และบรรณาธิการภาพของ AP ประจำไซง่อนคิดจะเสนองานให้เขา แต่ฟาสส์ก็เปลี่ยนใจ เพราะไม่อยากให้ครอบครัว Huynh เสียลูกชายอีกคน แต่ปีถัดมา ฟาสส์ก็จ้างนิคในวัย 15 ปีเป็นช่างภาพ พร้อมกำชับว่า เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ถือกล้องเข้าเขตสงครามเป็นอันขาด แต่ปี 1968 เมื่อพื้นที่สงครามเข้ามาใกล้ไซง่อน นิคก็กลายเป็นช่างภาพสงครามเต็มตัวด้วยอายุเพียง 17 ปี

credit: Nick Ut / The Associated Press

ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดคือภาพขาวดำ ‘Napalm Girl’ เด็กหญิงวัย 9 ขวบ คิม ฟุค (Kim Phuc) เปลือยกายวิ่งหนีไปตามถนน ร่างกายส่วนหนึ่งถูกเผาไหม้จากระเบิดที่ถล่มใส่หมู่บ้าน เมื่อ 8 มิถุนายน 1972

“ภาพนั้นเปลี่ยนชีวิตผม เปลี่ยนชีวิตคิม” ขณะนั้นนิคอายุ 21 หลังถ่ายรูปในหมู่บ้าน Trang Brang เสร็จ เครื่องบินสี่ลำบินมา ทิ้งระเบิดนาปาล์มใส่หมู่บ้านของคิม แล้วเปลวเพลงก็ลุกไหม้ ผู้คนวิ่งหนีกันไปทุกทิศทุกทาง

หลังจากหันไปถ่ายรูปประวัติศาสตร์ เขาวางกล้อง ส่งน้ำดื่มให้เด็กหญิง ล้างแผล พาเธอและชาวบ้านส่วนหนึ่งขึ้นรถตู้ของ AP เพื่อส่งโรงพยาบาล แต่หมอปฏิเสธการรักษา เพราะบาดแผลของคิมถูกไฟไหม้จนแย่ นิคแสดงบัตรนักข่าว วันต่อมาเขาบอกหมอว่า รูปภาพนี้จะถูกส่งไปทั่วโลก พร้อมกับคำอธิบายว่าทำไมโรงพยาบาลถึงปฏิเสธไม่ให้การช่วยเหลือเด็กหญิงคนนี้

“ผมร้องไห้ตอนเห็นเธอวิ่ง” เขาบอก “ถ้าผมไม่ช่วยเธอ ถ้าเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอตาย ผมคิดว่าผมคงฆ่าตัวตายตาม” ทุกวันนี้ นิค อึ๊ต และ คิม ฟุค ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

สงครามเวียดนามฝากแผลไว้ที่นิคสี่แผล รวมกับจรวดหนึ่งลูกที่ยิงมาเฉี่ยวหัว เพื่อนสนิทของเขาใน AP ประจำไซง่อน Henri Huet อาสาทำงานแทนนิค แล้วเฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตกเสียชีวิตในปี 1971  – เฮนรีคือคนตั้งชื่อให้เขาว่า ‘นิค อึ๊ต’  เพราะคนอื่นในสำนักงาน AP เรียกชื่อจริงไม่ถูก เขาจึงใช้ชื่อ นิค มาตลอดอาชีพ เพื่อเป็นเกียรติให้กับเฮนรี

หลังไซง่อนแตกในปี 1975 เขาออกจากเวียดนามไปแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่ AP จะส่งไปประจำโตเกียว และแต่งงานกับภรรยาซึ่งเป็นชาวเวียดนามที่นั่น กลับมาแอลเอในปี 1977 และเริ่มงานช่างภาพมือต้นๆ ในฮอลลีวูด ที่เขาบอกว่าชีวิตเขานั้น เขาบอกว่า “From hell to Hollywood”

หลังทำงานหลังเลนส์มา 51 ปีกับผลงานหลายหมื่นภาพกับสำนักข่าว AP นิค อึ๊ต เจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ประกาศลาวงการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยวัย 65 ปี เขาวางแผนใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่กับหลานๆ แต่เขาก็ยังบอกว่า “ผมยังถ่ายรูปไปจนกว่าจะตายนั่นแหละ”

 


อ้างอิงข้อมูลจาก: usnews.com
nzherald.co.nz
pantagraph.com

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า